สาธารณรัฐเกาหลี 26 ต.ค.- “อนุทิน” ชี้เกมการเมืองตั้งธงยื้อออก พ.ร.บ. กัญชา เผย เบื้องหลังช่วยกันร่าง ช่วยกันดัน สุดท้ายกลืนน้ำลายคว่ำเฉย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ร่างพ.ร.บ. กัญชง กัญชา มีแนวโน้มจะไม่สามารถพิจารณาวาระที่ 2 ได้ทันวันที่ 2 พฤศจิกายน และอาจต้องเลื่อนไปพิจารณาในสัปดาห์ที่ 3 แทนว่า มีการเตะถ่วงเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ทั้งที่เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ การออกพ.ร.บ.จะเป็นกฎหมายเฉพาะสำหรับการใช้กัญชง และกัญชาทำให้เกิดความสะดวกต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มีปัญหา มีอุปสรรค แต่เดิมร่างพ.ร.บ.มีเสนอเข้ามาหลายร่าง และของพรรคภูมิใจไทยเป็นหนึ่งในนั้น สุดท้ายสภาจะเลือกมาว่าจะใช้ของพรรคไหนยื่นเข้าไป การเสนอกฎหมายจะต้องผ่านวาระรับหลักการ การยื่นกมธ. และวาระพิจารณา
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ส่วนกฎหมายกัญชง กัญชา เมื่อถูกยื่นเข้าไปในสภา ก็มีการตกลงกันว่า ให้ใช้ ของพรรคภูมิใจไทยเป็นต้นเรื่อง ส.ส. เกินกึ่งหนึ่งก็มีมติรับหลักการเรียบร้อย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เมื่อรับหลักการไปแล้ว ได้ตั้ง กมธ. ขึ้นมา ประกอบด้วยพรรคฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ผู้ทรงคุณวุฒิ ข้าราชการประจำ ผู้เชี่ยวชาญ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยพิจารณา ให้กฎหมายดีขึ้นอีก ตอนแรกมี 45 มาตรา อันนี้มาจากพรรคภูมิใจไทย ส่วนพรรคการเมืองต่าง ๆ เข้ามาแล้ว เพิ่มความเห็นได้เลย กมธ.ก็โหวตทีละมาตรา จนมันขยายไปเป็น 90 กว่ามาตรา อะไรที่มันเพิ่มเข้ามา คือความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เป็นข้อเสนอของพรรคอื่น ๆ ทั้งนั้น มันเป็นกฎหมายที่สมบูรณ์ พรรคที่บอกว่ากังวลเรื่องเยาวชนเข้าถึง ก็เติมเรื่องนั้นเข้ามา มีกฎกรอบมากมายมาคุม จนผ่านความเห็นชอบขอบ กมธ.ที่ช่วยกันร่าง
“การมาคว่ำกันกลางสภา กลืนน้ำลายตัวเองทั้งนั้น เพราะท่านมีส่วนผลักดันข้ามาจนถึงขั้นตอนสุดท้ายร่างที่ออกมา ถึงวาระพิจารณาไม่ใช่ร่างของภูมิใจไทย เป็นร่างของผู้แทนราษฎร แล้วมันเกิดช่วงใกล้เลือกตั้ง มันทำให้รู้ว่านโยบายกัญชาโดนใจประชาชน เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าที่ ภูมิใจไทย หาเสียงไว้ ทำได้จริง พูดแล้วทำ ทำแล้วสำเร็จ มันถูกใจประชาชน มันก็เจาะยางกัน ถ้าผิดไปจากนี้ เขาต้องไม่รับหลักการ ตั้งแต่วาระแรก แต่นี่รับกันตั้งแต่วาระแรกที่ 378 เสียง มากกว่ารัฐมนตรีที่ถูกลงมติไม่ไว้วางใจอีก ตอนนั้น รมต.ที่เป็นแชมป์ ได้ 270 เสียงโดยประมาณ ได้เสียงไป 380 กว่าเสียง ก็ฝ่ายค้านที่มาเติมเสียงให้ ถ้าประชาชน วิเคราะห์ไปแต่ละจุด จะเห็นว่ามันเป็นเกมการเมือง” นายอนทิน กล่าว
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ในชั้นกรรมาธิการ พรรคประชาธิปัตย์ มีนายกนก วงศ์ตะหง่านมาเป็น กมธ.เสนอว่าต้องมีเรื่องนันทนาการ เพียงแต่ต้องควบคุม เรื่องเวลา เรื่องพื้นที่มีการขออนุญาต แต่ใน กมธ. บอกว่าไม่ได้ เพราะเพิ่งออกมาจากยาเสพติด ต้องขอให้ประชาชนมั่นใจก่อน ซึ่งนายกนกเห็นด้วย ในร่าง พรรคก้าวไกลมีเรื่องโซนนิ่งการใช้ น่าจะเป็นนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร ที่เป็นกมธ. ด้วย ก็ถกแถลงกัน แล้วสรุปว่า ยังไม่สมควรดันเรื่องนันทนาการเข้าไป เราฟังและแก้ไขหมด ตามที่เสนอกันมา สุดท้ายเมื่อสมบูรณ์ ผ่านกมธ.จากทุกพรรค ก็นำเรื่องเข้าสภา บรรจุเป็นวาระที่ 2
“นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย จากพรรคประชาธิปัตย์กลับมากังวล แล้วก็ไม่ปรึกษา อ.กนก บทนำ ก็ไม่อ่าน แล้วมาบอกว่ากฎหมายหละหลวม ส่วนนายสุทิน คลังแสง จากพรรคเพื่อไทย ก็มาบอกว่า ที่ตอนนั้น รับหลักการ เพราะรับใน 45 มาตรา แต่ไม่ได้รับใน 90 มาตรา สรุปว่า ตอนเป็น 45 มาตราของพรรคภูมิใจไทย ท่านก็รับ แต่พอทำให้ดีขึ้น มาจากทุกพรรคช่วยกันคิด ช่วยกันเขียน กลับไม่รับหรือ มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เป็นการพยายามเอาสีข้างเข้าถู คนเหล่านั้น ไม่ได้ทำกฎหมาย เหมือนกับว่า มีธงแล้ว ไม่ให้ผ่าน ก็พูดไปเรื่อย” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย