fbpx

อธิบดี ปค. แจงย้าย “นอภ.เชียงกลาง” ตามความประสงค์

กรุงเทพฯ 23 ต.ค. – อธิบดีกรมการปกครอง แจงกรณีการย้ายนายอำเภอเชียงกลางไปเป็นนายอำเภอปัว เป็นการโยกย้ายตามความประสงค์ พร้อมยืนยันข้าราชการฝ่ายปกครองทุกคนมีความมุ่งมั่นในการทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน


วันนี้ (23 ต.ค.65) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ตนได้รับทราบกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ที่ลานหน้าพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงกลาง ได้มีชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเชียงกลาง จังหวัดน่าน ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และตน หลังจากกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งย้าย นายชนินทร์ พันธุ์เหม นายอำเภอเชียงกลาง ไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอปัว โดยให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยมองว่าเป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม เพราะนายอำเภอมาทำงานที่อำเภอเชียงกลางได้ประมาณ 5 เดือนเท่านั้น

นายแมนรัตน์ กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อมูลจากนายชนินทร์ พันธุ์เหม นายอำเภอเชียงกลาง ว่าได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเชียงกลางแล้วว่า เป็นความประสงค์ของตนที่อยากย้ายไปที่อำเภอปัว เนื่องจากเป็นอำเภอบ้านเกิดของตนเอง ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง หรือเป็นการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด


นายแมนรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน ตามปณิธานของชาวมหาดไทย และกรมการปกครอง ที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องกว่า 130 ปี เพราะหน้าที่ของฝ่ายปกครองมีภารกิจงานในความรับผิดชอบที่กว้างขวางมากกว่าหน่วยงานอื่น เป็นงานครอบจักรวาล “นายอำเภอ” ต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำทั้งในเชิงหน้าที่ (Function) และเป็นผู้นำในพื้นที่ (Area) ตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจในการให้เป็นผู้นำในท้องที่ ซึ่งแน่นอนว่าในความรู้สึกของพี่น้องประชาชน รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำแหน่ง “นายอำเภอ” เป็นหัวหน้าใหญ่ของอำเภอ เมื่อท่านนายอำเภอย้ายมาดำรงตำแหน่งและมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างแข็งขันตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง ย่อมทำให้เป็นที่รัก ครองใจของพี่น้องประชาชน กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน แต่ทว่าในด้านการบริหารงานบุคคลนั้น กรมการปกครอง ให้ความสำคัญกับการแจ้งความประสงค์ในการทำหน้าที่ของข้าราชการทุกระดับ ดังนั้น การโยกย้ายในครั้งนี้ เป็นการโยกย้ายตามความประสงค์ของท่านนายอำเภอ เมื่อท่านนายอำเภอมีความประสงค์จะย้ายกลับไปทำหน้าที่ที่อำเภอบ้านเกิด และแจ้งมายังกรมการปกครอง กรมการปกครองได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ตำแหน่งที่ประสงค์จะไปดำรงตำแหน่งว่าง กรมฯ จึงมีหน้าที่ในการนำเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามความประสงค์นั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของข้าราชการที่มีการโยกย้าย และเป็นการโยกย้ายตามความประสงค์ของเจ้าตัวเอง

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ นายมนัส พลหล้า ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเชียงกลาง ได้ออกมาเปิดเผยว่า กรณีการแสดงออกคัดค้านการย้ายนายอำเภอ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ เป็นความเข้าใจผิดของกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเชียงกลาง เนื่องจากนายอำเภอเป็นที่รักของชาวเชียงกลางและทำงานกันอย่างราบรื่น และจังหวัดพร้อมด้วยนายอำเภอได้ทำความเข้าใจกับชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเชียงกลางแล้ว พร้อมทั้งขอโทษที่เข้าใจผิดและทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้เกิดเป็นข่าวสร้างความเสียหายให้กับกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว

“การทำหน้าที่ของนายชนินทร์ พันธุ์เหม นายอำเภอเชียงกลาง ถือได้ว่าเป็นตัวอย่างการทำงานของข้าราชการฝ่ายปกครอง ในการทำหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชน จนได้รับความไว้วางใจ ได้รับความรัก ความปรารถนาดีจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ กระทั่งไม่อยากให้ท่านนายอำเภอย้ายออกไปนอกพื้นที่ แต่ทว่า วิถีของข้าราชการทุกคน เมื่อได้แจ้งความประสงค์จะขอย้ายด้วยเหตุผลความจำเป็นส่วนตัว กรมการปกครองก็ให้การส่งเสริมสนับสนุน เพื่อให้ท่านนายอำเภอได้ทำงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และสำหรับพื้นที่อำเภอเชียงกลางนั้น กรมการปกครองจะได้พิจารณาคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอเชียงกลาง เพื่อเป็นผู้นำของฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ ทำหน้าที่ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป เพราะหน้าที่ของข้าราชการฝ่ายปกครองทุกคน ต้องทำให้พี่น้องประชาชนมีความทุกข์น้อยลงจนหมดไป มีความสุขที่ยั่งยืน นั่นเอง” อธิบดีกรมการปกครอง กล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553