ปทุมธานี 22 ต.ค.- อธิบดีกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการราชสีห์ นำกำลังบุกตรวจค้นผับแห่งหนึ่งย่านถนนหทัยราษฎร์ ไร้ใบอนุญาต เจอฉี่ม่วงมากถึง 137 คน เตรียมชงผู้ว่าฯ ปทุม สั่งปิด 5 ปี
วันที่ 22 ต.ค. 2566 เวลา 01.45 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 นำโดยว่าที่ร้อยตรีอากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค1 พร้อมกำลังเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานประกอบการ
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับย่านหทัยราษฎร์ – สายไหม ในพื้นที่อำเภอลำลูกกาครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยว่ามีสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ มีการปล่อยให้ใช้ยาเสพติดและมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน การ์ดของร้านมีพฤติการณ์พกอาวุธปืน อ้างอิทธิพลคนในพื้นที่ ทั้งปล่อยนักเที่ยวบางคนพกพาอาวุธปืน และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้บริการถึง 6 โมงเช้า ทั้งยังเคยมีประวัติเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวเมาและขับรถตกทางด่วนเสียชีวิต และมีข่าวยิงกันตายภายในร้าน แต่ร้านยังคงได้เปิดตามปกติ อยากให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับกุม
อธิดีกรมการปกครอง กล่าวว่า พนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน กระทั่งเวลา 01.45 น. วันที่ 22 ต.ค. 2566 ได้เปิดปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับพบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน กำลังดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรี ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับได้เกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้งออกจากตัว และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ
จากการเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าในลักษณะเป็นสถานบริการ มีการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด ที่สำคัญสถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาเคตามีน โดยพบนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน 5 คน จากนั้นได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นตรวจสอบจำนวน 291 คน พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวนมากถึง 137 คน
อธิบดีกรมการปกครอง ยังกล่าวว่า พนักงานฝ่ายปกครอง ได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.โดยเปิดสถานบริการภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งปิด 5 ปี 2.เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 4.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ส่วนนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง เจ้าหน้าที่ ปปส.ได้นำเข้ากระบวนการตามกฎหมายต่อไป
นายอรรษิษฐ์ กล่าวว่า สถานบันเทิงแห่งนี้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง จากนี้จะได้สั่งการให้อำเภอลำลูกกา รายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป
สำหรับการจับกุมในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชน มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ซึ่งการจับกุมในวันนี้ นอกจากเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรม แล้ว ยังเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด ลด Demand Supply เพื่อป้องกันไม่ให้สถานบริการเป็นสถานที่กระจายยาเสพติดไปสู่นักเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่งด้วยและหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิดกฏหมาย หรือได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งต่อ ผู้ใหญ่บ้าน หรือ กำนัน หรือแจ้งต่อปลัดอำเภอ นายอำเภอท้องที่ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567 .-สำนักข่าวไทย