fbpx

ไล่ออกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฉี่ม่วง

กรุงเทพฯ 20 ต.ค.- ปลัดมหาดไทย เผยไล่ออกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอำเภอลานสภาฉี่ม่วง ลั่น หากเจ้าหน้าที่คนใดเกี่ยวข้องยาเสพติด ต้องรับโทษทั้งวินัยและอาญาไม่มีละเว้น


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการ Re X-Ray ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกวาดบ้านให้กับตนเอง ด้วยการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกคน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญา ไม่มีละเว้น ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ตนได้รับรายงานว่า จากการตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ของอำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ หรือ ผรส. มีสารเสพติดในกระแสเลือด โดยพบปัสสาวะสีม่วงชัดเจน จึงถูกไล่ออกจากทางราชการโดยทันที ซึ่งรายนี้ถือเป็นรายแรก เพราะสำหรับตำแหน่ง ผรส. นั้น ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญ แต่ตัว ผรส. กลับมากระทำผิดเสียเอง “แบบนี้จึงเอาไว้ไม่ได้” เพราะถือเป็นการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง และขอย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคนร่วมกันเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังยาเสพติด และประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน ห้ามข้องเกี่ยวกับยาเสพติดทุกกรณี หากตรวจพบจะมีมาตรการในการลงโทษทางวินัย และดำเนินคดีอาญาทันที

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ยังได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเร่ง Re X-Ray สุ่มตรวจสถานประกอบการที่มีความเสี่ยง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม สถานประกอบการขนส่ง โรงสี และคลังเก็บสินค้าทางการเกษตร เป็นต้น เพื่อป้องปรามและติดตามค้นหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งในวันนี้หลายพื้นที่ได้รายงานผลการดำเนินการสุ่มตรวจ เช่น 1) จังหวัดสมุทรสาคร ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดฯ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สุ่มตรวจยาเสพติดในปัสสาวะพนักงานในสถานประกอบการแห่งหนึ่ง จำนวน 128 ราย 2) จังหวัดสกลนคร ฝ่ายปกครองจังหวัดสกลนคร ร่วมกับสำนักงานสวัสดิการแรงงานจังหวัดสกลนคร และโรงพยาบาลสกลนคร ออกสุ่มตรวจปัสสาวะ จำนวน 2 แห่ง รวมพนักงาน 43 คน 3) จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตชด.และสาธารณสุข ร่วมสุ่มตรวจปัสสาวะ ในสถานประกอบการ 8 แห่ง รวมพนักงาน 126 ราย ซึ่งทั้งหมดไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังสถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ เช่น ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ฝ่ายปกครองร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สารวัตรทหารบก มทบ.26, สรรพสามิตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์, พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ และสาธารณสุขอำเภอเมืองบุรีรัมย์ รวมกว่า 100 นาย ออกตรวจสถานประกอบการต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ โดยตรวจปัสสาวะพนักงานทุกคนที่ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยผลการตรวจปัสสาวะพนักงานทุกคน ไม่พบมีการกระทำผิด และยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในสถานบันเทิง


ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า ในมิติด้านการจับกุมและปราบปรามผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ทุกกลไกในพื้นที่ยังคงดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งรายใหญ่และผู้ค้ารายย่อยในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีตัวอย่างผลการปฏิบัติในวันนี้ ได้แก่

  1. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดสงขลา ภายใต้การอำนวยการของนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา, นายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ นายอำเภอสะเดา รักษาราชการแทนปลัดจังหวัดสงขลา, นายปัญญวัฒน์ เรืองวงศ์โรจน์ ป้องกันจังหวัดสงขลา และนายกองตรี วิโรจน์ ศรีขวัญ ผบ.ร้อย อส.จ.สข.1 ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา นำโดย จ่าเอกไพรัช แก้วมณี ผช.ป้องกันฯ/รอง หน.ชุดฯ นำกำลัง อส. ประจำชุด ฯ ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 2 ราย พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 5 มัด หรือ 10,000 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สทิงพระ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
  2. เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ภายใต้การอำนวยการของ นายทศพล สินยบุตร นายอำเภอปาย ได้มอบหมายให้ นายภูรีภัทร พิพัฒน์พงศธร และนายพิเชษฐ พุ่มนวน ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอปาย นำกำลังสมาชิก อส. ร้อย.อส.อ.ปาย 4 ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรปาย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 336 จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย (เจ้าหน้าที่ตรวจยึด) ได้ร่วมกันตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายเป็นยาบ้า จำนวน 12 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 2,400 เม็ด และยาบ้า อีกจำนวน 18 ถุง น้ำหนักรวมถุง 7,131.636 กรัม (ถุงละประมาณ 396.202 กรัม) ซึ่งขณะตรวจยึดไม่พบผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ที่เกิดเหตุ จึงได้นำของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดไว้ได้ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปาย ทำการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
  3. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม นำโดย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 นำโดย พ.ต.อ.จีรภัทร พฤฑฒิกุล ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.วิฑูรย์ ญานุกูล รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.พล หอมจันทร์ รอง ผกก.3 บก.ปส.2, พ.ต.ท.โชติธนินท์ โชติสุรีย์ชัย รอง ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน บก.ปส.2 พร้อมพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 10 กระสอบ ประมาณ 3 ล้านเม็ด และอาวุธปืนสั้น จำนวน 2 กระบอก จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บกปส.2 ดำเนินคดีตามกฎหมาย
  4. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจ สภ.ชะอวด และเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ในพื้นที่ อ.ชะอวด รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วรถเสียหลักตกลงข้างทางริมถนนสายเชียรใหญ่ – ควนหนองหงส์ ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากถนนลื่น ภายในรถมีชายวัยรุ่น 3 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เมื่อชายวัยรุ่นทั้ง 3 คนเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังเข้าช่วยเหลือต่างตกใจวิ่งหลบหนีไปแบบมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภายในรถกระบะพบกล่อง จำนวน 2 กล่อง เปิดตรวจสอบพบว่า มียาบ้ารวม 362,000 เม็ด จึงแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวนตรวจสอบตรวจยึดยาบ้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด พร้อมกับตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานติดตามวัยรุ่นทั้ง 3 คนมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
  5. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดชัยภูมิ ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ 16 อำเภอ สถานีตำรวจภูธร จำนวน 29 แห่ง และเป้าหมายปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 31 จุดเป้าหมาย ได้รายงานผลการปฏิบัติงาน โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิดคดียาเสพติด จำนวน 31 รายพร้อมของกลางยาเสพติด ประเภทยาบ้า จำนวน 4,341 เม็ด สารไอซ์ ปริมาณ 15.62 กรัม อาวุธปืน จำนวน 16 กระบอก และกระสุนและเครื่องกระสุนปืน จำนวน 22 นัด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำผู้เสพเข้ารับการสมัครใจบำบัด จำนวน 16 ราย
  6. เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ณ จังหวัดกระบี่ ภายใต้การอำนวยการของนายสมยศ ณ นคร นายอำเภออ่าวลึก นางนันทิชา เกิดแก้ว ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง โดยนายชนะพล เที่ยงธรรม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภออ่าวลึก กำนันตำบลคลองยา ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.คลองยา พร้อมด้วยสมาชิก อส.อ.อ่าวลึกที่ 7 ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดคดียาเสพติด จำนวน 2 ราย และตรวจยึดรถยนต์อีกหนึ่งคัน ซึ่งพบของกลางเป็นยาบ้ารวมกว่า 2,000 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานการตรวจค้นและจับกุมผู้ค้ารายย่อยจากอีกหลายพื้นที่ อาทิ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จับกุมได้กว่า 200 เม็ด อำเภอลำทับ จังหวัดกระบี่ จับกุมได้กว่า 100 เม็ด อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับกุมได้กว่า 600 เม็ด เป็นต้น โดยทั้งหมดถูกนำตัวผู้กระทำผิดพร้อมของกลสงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

“กระทรวงมหาดไทย เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการทำสงครามกับยาเสพติดและอาวุธปืนผิดกฎหมายทุกชนิด ด้วยการบูรณาการการทำงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ป.ป.ส. รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น โดยใช้ทุกกลไกภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ลงพื้นที่ลุยกวาดล้างผู้กระทำความผิดอย่างแข็งขัน พร้อมทั้งนำผู้หลงผิดเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อคืนคนดีให้กับสังคม ให้กับครอบครัว และหมั่นลงพื้นที่ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัจจัยทำลายคนบริสุทธิ์อีก อันจะทำให้ลูกหลานของพวกเราทุกคน อยู่ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข พร้อมทั้งได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์หมายเลขติดต่อในการแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และหมายเลขที่ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้อย่างสะดวก มีเจ้าหน้าที่สแตนบายพร้อมเข้าดำเนินการตามเบาะแสตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถจดจำและติดต่อได้ง่าย อันเป็นการอำนวยความสะดวกและเป็นการเพิ่มช่องทางการมีส่วนร่วมในการช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553