“ชาดา” นำจับผับดังพัทยา นักเที่ยวฉี่ม่วง 219 คน

ชลบุรี 25 พ.ค.-“ชาดา” ลุยเอง นำฝ่ายปกครอง ตำรวจ บุกจับผับดังพัทยา รู้กันในวงการสายตื๊ด ผงะนักเที่ยวฉี่ม่วง 219 คน ยาเสพติดเกลื่อนพื้น สั่งปิดยาว 5 ปี

เวลา 03.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน โดย ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ นำกำลังชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ (DOPA FORCE) เจ้าพนักงานร่วม 5 สำนัก จากกรมการปกครอง จำนวนกว่า 150 นาย ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี และนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิง เดอะตี้ ผับ ภายในซอยกอไผ่พัทยา เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


สืบเนื่องมาจากกรมการปกครอง ได้รับรายงานและร้องเรียนว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ Dirty Pub Pattaya เป็นผับที่รู้กันในวงการสายตื๊ด ว่ามีครบวงจร ทั้งจำหน่าย จ่ายแจก เสพ ดม อม เคี้ยว และเป็นสถานบันเทิงผิดกฎหมาย มีนักเที่ยววัยรุ่นจำนวนมาก เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด และจำหน่ายยาเสพติด เป็นประจำเกือบทุกวัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทบ่อยครั้ง รวมถึงเปิดให้บริการปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้วางแผนนำกำลังบุกมาตรวจสอบ พบว่าเป็นผับตั้งอยู่ใจกลางเมือง และรอบข้างมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่กว่า 100 หลังคาเรือน

เมื่อไปถึงพบว่ากำลังเปิดเพลงดังสนั่น มีนักเที่ยวกว่า 300 คน กำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะดนตรีอย่างเมามันส์ เจ้าหน้าที่กรมการปกครองจึงสั่งให้ยุติกิจกรรมทั้งหมด ปิดเพลงเปิดไฟ แล้วสั่งแยกผู้หญิง ผู้ชาย ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน


จากนั้นนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 219 คน เป็นผู้ชาย 103 คน เป็นผู้หญิง 116 คน ยังตรวจเจอยาเสพติด ซองใสแบบซิปที่นักเที่ยวทิ้งไว้เกลื่อนพื้นและทั้งขยะจำนวนมาก

นอกจากนี้ คุมตัวนักเที่ยวออกมาตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายภายในตัวรถ พบนักเที่ยวทราบชื่อคือนายธนนันท์ อายุ 23 ปี เป็นอาวุธปืนขนาด 11 มม.พร้อมเครื่องกระสุน 9 นัด และกระบอกที่สองเป็นอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 10 นัด เป็นของนายภูวไนย อายุ 30 ปี ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ โดยอ้างว่าพกติดรถไว้ป้องกันตัว บางรายยังพบยาเสพติดซุกซ่อนไว้ในรถอีกด้วย

หลังควบคุมสถานการณ์ได้จึงประสาน พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เข้าร่วมตรวจสอบและควบคุมตัวผู้ที่ครอบครองอาวุธปืน ผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วง พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน และยาเสพติด ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา แจ้งข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”