พิษผิดนัดฉุดตราสารหนี้ระยะสั้นวูบร้อยละ 25.6

กรุงเทพฯ  25 เม.ย. – สมาคมตราสารหนี้ไทยเผยพิษผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบี/อี ฉุดการออกตราสารหนี้ระยะสั้นวูบร้อยละ 25.6 


นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดปัญหาบริษัทผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน หรือตั๋วบี/อี ส่งผลให้การออกตราสารหนี้ระยะสั้นลดลง 153,539 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 25.6 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน  มูลค่าการออกรวม 444,418 ล้านบาท โดยกลุ่มธนาคารและเงินทุนลดลงร้อยละ 37 และพบว่าบริษัทที่ออกตราสารหนี้ หุ้นกู้ ขอจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้   หรือจัดเรตติ้งมากขึ้น โดยช่วง 4 เดือนแรกปีนี้มีบริษัทใหม่จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้  20 บริษัท เท่ากับจำนวนบริษัทใหม่ที่จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ตลอดปี 2559    

ส่วนการออกตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41 หรือเพิ่มขึ้น 59,939 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการออกรวม 182,626 ล้านบาท และมีจำนวนผู้ออกรวม 69 บริษัท เพิ่มขึ้น 7 บริษัทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน กลุ่มธุรกิจที่มียอดการออกสูงสุด คือ กลุ่มพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 6 เท่า ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาสแรกปี 2560 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง มีมูลค่าคงค้างรวม 11.24 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 จาก 10.86 ล้านล้านบาทเมื่อปลายปีที่ผ่านมา 


นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กล่าวว่า ภาพรวมเงินลงทุนจากต่างประเทศไตรมาส 1/2560 มีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าสุทธิรวม 69,037 ล้านบาท โดยร้อยละ 83.4 เป็นการไหลเข้าสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว และร้อยละ 16.5 เป็นการซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น ทำให้มูลค่าเงินลงทุนในตลาดตรสารหนี้ของนักลงทุนต่างชาติสิ้นไตรมาส 1 เท่ากับ 696,104 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 6.2 ของมูลค่าตลาดตราสารหนี้ไทย

ส่วนทิศทางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้ คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะยังคงทรงตัวตามทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่คาดว่าจะคงที่ในระดับร้อยละ 1.50 ไปอีกระยะหนึ่ง โดยมีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อที่อาจขยับขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอายุ 10 ปี มีทิศทางเป็นช่วงขาขึ้นและอาจมีการแกว่งตัวค่อนข้างกว้างจากหลายปัจจัย เช่น นโยบายเศรษฐกิจและการค้าของประธานาธิบดีสหรัฐ ผลการเลือกตั้งในยุโรป และกระบวนการออกจากกลุ่มสหภาพยุโรปของอังกฤษ.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง