ทำเนียบฯ 24 เม.ย. – โตโยต้าให้คำมั่นใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานป้อนประเทศเกิดใหม่ ลงทุนสูงสุดในรอบ 50 ปี พร้อมช่วยผลิตช่าง อาชีวะป้อนโรงงานรถยนต์ ขณะที่เนเธอร์แลนด์ มองไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนสนใจขยายการลงทุนเพิ่ม เสนอหัวหน้าทีมเศรษฐกิจผ่อนปรนเงื่อนไขการลงทุน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายชินยะ โคเทระ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผู้บริหารเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความมั่นใจการลงทุนในประเทศไทยระยะยาวและชี้แจงแผนการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย หลังจากซื้อหุ้นไดฮัทสุร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงต้ังบริษัทลูก Toyota Daihatsu Imerging Compact Car เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในภูมิภาครถยนต์ประหยัดพลังงานขนาดเล็กออกสู่ตลาดในประเทศเกิดใหม่ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต เนื่องจากความเปลี่ยนของกระแสโลก โดยเตรียมเสนอบอร์ดโตโยต้าเดือนพฤษภาคมนี้ นับเป็นการลงทุนสูงสุดในรอบ 50 ปี จากนั้นเตรียมผลิตรถยนต์รองรับความต้องการตลาดทั่้วโลก ทั้งการผลิตแบตเตอรี่ รถยนต์ไฮบริด รองรับความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งกำลังส่งเสริมไปทั่วโลก
นอกจากนี้ ยังพร้อมสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาด้านไบโอดีเซล การผลิตบุคลากร เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ต้องการวิศวกรเครื่องกล ด้านยานยนต์จำนวนมาก นอกจากการผลิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ทันต่อความต้องการของภาคเอกชน โตโยต้า จึงพร้อมนำนักเรียนเทคนิค อาชีวะ มาร่วมฝึกงาน ฝึกอบรมและพร้อมรับเข้าทำงานในบริษัท ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมส่งเสริมแนวทางผลิตบุคลากรป้อนอุตสาหกรรมอื่นที่ต้องการในอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการส่งเสริม เพื่อผลิตบุคลากรโดยไม่ต้องหวังเรื่องดีกรีมหาวิทยาลัย แต่เน้นความต้องการของกระแสโลกที่ต้องการบุคลากรเข้าทำงาน
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นาย Paul Menkveld อุปทูตฯ ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ซึ่งได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเนเธอร์แลนด์เข้าหารือกับนายสมคิด เนื่องจากเนเธอร์แลนด์ลงทุนในประเทศไทยเป็นเวลานาน เช่น ปั๊มน้ำมันเชลล์ ยูนิลิเวอร์ เบียร์ไฮนาเก้น ไอเอ็นจีแบงก์ เพื่อนำข้อห่วงใยของนักลงทุนเสนอต่อหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของไทยพิจารณานำไปสู่การแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ เช่น ปั๊มเชลล์ มีสถานีบริการน้ำมันกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 13 ต้องการขยายปั๊มเพิ่มเป็น 900 แห่ง หวังให้บริการด้านอื่นเพิ่ม แต่ยังติดปัญหาการให้บริการด้านอื่นของนักลงทุนต่างชาติ เช่น การนำพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ให้เช่าต่อ เพื่อดำเนินการธุรกิจนอกจากธุรกิจน้ำมันเหมือนกับปั๊ม ปตท.
ขณะที่เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง เสนอว่าการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชในต่างจังหวัดได้รับความนิยมสูงมาก เพราะต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้านไบโอชีวภาพพัฒนาเมล็ดพันธุ์ จึงห่วงการละเมิดลิขสิทธิ์ ส่วนเบียร์ไฮนาเก้น ระบุว่ามีปัญหาด้านการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ จึงมีปัญหาการทำตลาด ส่วนไอเอ็นจีแบงก์ ต้องการให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์การลงทุนในภาคตะวันออก เพื่อสร้างความชัดเจนในแผนการลงทุน และแผนส่งเสริมให้สถาบันการเงินต่างชาติเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ส่วนนมโฟโมสท์ ระบุว่าการควบคุมคุณภาพนมในประเทศไทยไม่แบ่งแยกคุณภาพชัดเจน จึงเป็นห่วงตลาดนม เมื่อไทยมีข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย – ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ทำให้อุตสาหกรรมนมในประเทศอาจมีปัญหา จึงเสนอให้ควบคุมคุณภาพนมทุกประเภทให้มีมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยอมรับว่าขาดแคลนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ จึงต้องการเปิดทางให้นักเรียนทุนรัฐบาลเข้ามาทำงานในภาคเอกชนมากขึ้น เมื่อได้รับการชดเชยค่าทุนเล่าเรียน เมื่อต้องการบุคลากรเข้ามาทำงาน
นายสมคิด พร้อมรับข้อเสนอนักลงทุนเนเธอร์แลนด์ มอบหมายให้ส่วนราชการทั้งกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นำไปพิจารณาส่งเสริมการลงทุน เนื่องจากมีอุตสาหกรรมเป้าหมายตามที่รัฐบาลไทยต้องการส่งเสริม เพราะราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์หรือเดนมาร์กลงทุนกับไทยเป็นเวลานาน แต่ที่ผ่านมาอาจห่างหายจากไทยไปนาน เมื่อมองว่าไทยเริ่มเป็นศูนย์กลางการลงทุนของกลุ่มอาเซียน จึงต้องการเข้ามาขยายการลงทุนในไทยมากขึ้น โดยรัฐบาลไทยพร้อมนำทัพภาคเอกชนไปเจรจาการลงทุนกับพันธมิตรที่เนเธอร์แลนด์ เนื่องจากมีศักยภาพด้านไบโอชีวภาพ เทคโนโลยีด้านการเกษตร นับว่านักลงทุนต่างชาติต้องการมาขยายลงทุนกับไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย.-สำนักข่าวไทย