กำแพงเพชร 6 ต.ค. – วันนี้ สภาทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ “พ่อค้าไก่หมุน” ที่แอบอ้างเป็นทนาย สวมใบอนุญาตทนายความของทนายจริง ๆ ด้านศาลยุติธรรมยุติธรรมตรวจสอบพบเคยว่าความ 2 คดี ในศาลจังหวัดกำแพงเพชร ส่งเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีแล้ว ด้านแม่ผู้ต้องหา ยันผิดว่าไปตามผิด แต่หัวอกแม่ ลูกชายเป็นที่รัก เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่าเรื่องราวเกิดจากมีทนายความคนหนึ่งรับว่าความให้ผู้เสียหายในคดีแพ่งในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จากนั้นแจ้งผู้เสียหายว่าชนะคดี โดยให้ดูคำพิพากษาของศาล พร้อมเรียกรับเงินค่าดำเนินการ ต่อมาผู้เสียหายตรวจสอบคำพิพากษาดังกล่าวปรากฏว่าไม่มี และไม่มีคดีในสารบบของศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี
ทางพนักงานสอบสวนฯ จึงประสาน สภ.เมืองกำแพงเพชร เมื่อทราบเรื่องทางศาลจังหวัดกำแพงเพชร จึงตรวจสอบเลขที่คดี พบว่าไม่มีคดีอยู่ในสารบบของศาล และตรวจสอบรายชื่อทนายความ ก็ไม่พบว่าผู้ต้องหามีอยู่ในรายชื่อของสภาทนายความ จึงทราบว่าทนายคนนี้ได้ปลอมแปลงตั๋วทนายเพื่อใช้ในการว่าความ สร้างความเสียหายให้กับศาลอย่างยิ่ง จึงแจ้งความดำเนินคดีกับทาง สภ.เมืองกำแพงเพชร
และผู้ต้องหา ตือ นายพรเทพ คะเชนทร์ภักดิ์ พ่อค้าไก่หมุน ที่ปลอมเป็นทนายความสวมรอยเลขใบอนุญาตของคนอื่นรับว่าความหลายคดี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.กำแพงเพชร ถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว และขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดกำแพงเพชรเรียบร้อยแล้ว
สภาทนายฯ ยัน “พ่อค้าไก่หมุน” เป็นทนายปลอม
ด้านสภาทนายความ ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบทนายคนนี้ปลอมใบอนุญาตทนายความ โดยใช้เลขที่อนุญาตเป็นของบุคคลอื่น และเมื่อตรวจสอบรายชื่อก็พบว่าไม่เคยผ่านการฝึก อบรมวิชาว่าความของสภาทนายความ และไม่เคยมีใบอนุญาตทนายความมาก่อน เข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ทนายความ มีโทษทางอาญากำหนดชัดเจน และมีการปลอมแปลงใบอนุญาตทนายความ นอกจากนี้มีการแอบอ้างประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ ว่าเป็นทนายความให้คนหลงเชื่อ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน
ส่วนการไปดำเนินการว่าความในศาล สำนักงานศาลยุติธรรม อาจเข้าข่ายการละเมิดอำนาจศาล
และเช้าวันนี้ นายกสภาทนายความได้ออกหนังสือมอบอำนาจให้นายทะเบียนทนายความไปแจ้งความเอาผิดทนายไก่หมุน ที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ในช่วงบ่ายวันนี้
ส่วนทนายความที่ถูกสวมใบอนุญาต ถือว่าเป็นผู้เสียหาย สามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ได้เช่นกัน ส่วนคดีที่ทนายปลอมคนนี้ได้ว่าความ และคดีที่มีคำพิพากษาสิ้นสุดไปแล้ว จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาล ไม่สามารถก้าวล่วง
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสภาทนายฯ เตรียมพูดคุยกับศาลในการดำเนินการวางระบบให้สามารถตรวจสอบข้อมูลระหว่างศาลและสภาทนายฯ ได้ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก รวมถึงเตรียมวางระบบให้ประชาชนสามารถมาตรวจสอบใบอนุญาตทนายความได้อย่างสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้วิธีให้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเท่านั้น
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลดังกล่าวที่มีการไปละเมิดและต้องรับผิดในส่วนใดบ้าง โดยสรุปทั้งหมด 4 ประเด็น
1.เข้าข่ายการกระทำความผิดมาตรา 33 ตาม พ.ร.บ.ทนายความ ที่กำหนดไว้ว่า ห้ามไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นทนายความไปว่าความในศาล หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.เข้าข่ายการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานปลอมและใช้เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เนื่องจากใบอนุญาตทนายความเป็นรูปแบบสมาร์ทการ์ดและปรากฏลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ การปลอมแปลงจึงมีความผิดตามมาตรา 269/1 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 100,000 บาท
และการที่นำเอกสารที่ปลอมแปลงไปใช้ทั้งที่รู้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.หลอกลวงทำให้ประชาชนเสียหาย เป็นลักษณะของการฉ้อโกง ซึ่งไม่ได้มีผู้เสียหายเพียงรายเดียว เพราะทำมาเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ปี ซึ่งผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์ในท้องที่เกิดเหตุได้ ขณะเดียวกัน สภาทนายความได้สั่งการให้กรรมการสภาทนายความภาค 6 ดำเนินการตั้งโต๊ะรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่ถูกบุคคลดังกล่าวแอบอ้างแล้ว ซึ่งจะช่วยเหลืออย่างไรบ้างนั้น จะพิจารณาเป็นกรณีไป
4.เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล ซึ่งประเด็นนี้สภาทนายความไม่ก้าวล่วง แต่ศาลก็มีมาตรการในการดำเนินการอยู่
ทั้งนี้ พฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีแบบต่างกรรมต่างวาระ จึงต้องไปดูว่ามีการดำเนินการในฐานะทนายความไปแล้วกี่ครั้ง แต่งตั้งเข้าไปเป็นทนายความแล้วกี่สำนวน ซึ่งอาจต้องรับโทษจำนวนมาก
ตรวจสอบพบทนายปลอม เคยว่าความ 2 คดี
นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เผยได้รับรายงานจากศาลจังหวัดกำแพงเพชร เจอแล้ว 2 คดี เป็นคดีหมิ่นประมาท และคดีฉ้อโกง โดยขณะนี้ทางศาลกำแพงเพชรได้ส่งตัวแทนไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดีตามกฎหมายอาญา ส่วนของศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาของเจ้าของสำนวนคดีใช้ดุลยพินิจจัดการว่าจะลงโทษหรือไม่อย่างไ ร และให้ทางศาลในพื้นใกล้เคียงตรวจสอบย้อนหลังว่ามีคดีที่ทนายปลอมว่าความที่ไหนอีกหรือไม่
แม่ทนายปลอมรับลูกผิดว่าไปตามผิด เลิกขายไก่หมนุแล้ว
ขณะที่บ้านของผู้ต้องหา อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ประตูกระจกติดข้อความรับว่าความทั่วราชอาณาจักรคดีแพ่งอาญา พร้อมเบอร์ติดต่อ ภายในบ้านพบแม่และลูกสาวของผู้ต้องหาอีก 2 คน ผู้เป็นแม่ขอร้องด้วยน้ำตา ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ แต่ให้ข้อมูลว่าลูกชายเลิกอาชีพไก่หมุนแล้ว มีอาชีพรับว่าความหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว เรื่องความผิดก็ว่ากันไปตามผิด แต่หัวอกแม่ ลูกชายเป็นที่รัก เป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวมาตลอด หลังลูกชายถูกควบคุมตัวไปไม่ได้ติดต่อกันเลย ไม่รู้จะไปติดต่อทางไหน ขณะนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกอยากไปประกันตัวออกมา ชีวิตตอนนี้ลำบากมาก เพราะตนพิการเดินไม่ได้ มีหลานสาวอีก 2 คน การดำรงชีพได้เพื่อนบ้านนำอาหารและของจำเป็นมาจุนเจือให้พอมีกินอิ่มไปเป็นมื้อ. – สำนักข่าวไทย