ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ย.- ครม. เห็นชอบให้ไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 – อาเซียนพาราเกมส์ ปี 68 หวังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีสู่สายตาประชาคมอาเซียน มีรายได้หมุนเวียนในระบบ เป็นผู้นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกีฬา
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ปี 2568 กรอบวงเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายรวม 2,055 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นขอรับสนับสนุนจากงบประมาณ 1,683 ล้านบาท รายรับจากฝ่ายสิทธิประโยชน์ 200 ล้านบาท ค่าจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขัน 20 ล้านบาท ค่าลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ 134 ล้านบาท และค่าลงทะเบียนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ 16 ล้านบาท
“การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ เนื่องจากถึงรอบของไทยที่จะต้องเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนเสนอตัวเพื่อแข่งขันเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ซึ่งครั้งล่าสุดที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์เมื่อปี 2550 สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ อาทิ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาประชาคมอาเซียน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ ให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศในทุกด้าน สร้างรายได้ให้กับประเทศเกิดการหมุนเวียนในระบบ โดยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายเงินของนักกีฬา เจ้าหน้าที่ ผู้แทนองค์กรกีฬาต่างๆ และผู้สังเกตการณ์ ประมาณ 12,000 คน และประเทศไทยจะได้แสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬา” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนจังหวัดเป้าหมายที่จะเป็นเจ้าภาพ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เช่น สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จังหวัดชลบุรี เช่น ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก บางละมุง จังหวัดนครราชสีมา เช่น สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดภูเก็ตและสงขลา เช่น สนามกีฬาสุระกุล และสนามกีฬาติณสูลานนท์ และกรุงเทพมหานคร เช่น สนามราชมังคลากีฬาสถาน สนามศุภชลาศัย พร้อมกันนี้ ระหว่างการประชุม ได้มีการเสนอเพิ่มกลุ่มจังหวัดเป้าหมายอีก 1 พื้นที่ คือกลุ่มจังหวัดอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนองและสตูล ทั้งนี้ สนามสำหรับพิธีเปิดและปิดต้องมีความจุตั้งแต่ 20,000 ที่นั่งขึ้นไป ส่วนการถ่ายทอดสดการแข่งขันจะขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.).-สำนักข่าวไทย