กรุงเทพฯ 23 ก.ย. – รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือน QR Code สิ่งอำนวยความสะดวกที่อาจมาพร้อมภัยอันตราย ต้องรู้ทันถึงปลอดภัย แนะตรวจสอบให้ดีก่อนกรอกรหัส
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบพบว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้งาน QR Code กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกยุคดิจิทัล เพราะเพียงแค่สแกนก็สามารถเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องพิมพ์ ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ยาว ๆ อีกต่อไป แต่ความสะดวกสบายก็ต้องแลกมากับความเสี่ยง โดยกลุ่มมิจฉาชีพมักจะฉวยเอาโอกาสจากการใช้ QR Code ในการทำเว็บไซต์ปลอม หรือหลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ หากประชาชนไม่ระมัดระวังหรือไม่สังเกต URL ที่ขึ้นมาตอนสแกน QR Code ก็อาจทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเว็บไซต์จริง หรือแอปพลิเคชันจริง ทำให้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล รหัสผ่าน หรือติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ลงในอุปกรณ์ของตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชนจำนวนมากนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันตนเองจาก QR Code มิจฉาชีพ ดังต่อไปนี้
1.ระมัดระวังในการสแกน QR Code ไม่ว่าจะเป็น QR Code ที่ปรากฏตามป้ายโฆษณา เว็บไซต์ หรือเอกสารต่าง ๆ เพราะคนร้ายอาจแอบนำ QR Code ที่นำไปสู่เว็บไซต์ปลอมหรือหลอกให้ติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์
2.เมื่อทำการสแกน QR Code ให้สังเกต URL ที่ได้จากการสแกน QR Code ว่าเป็นเว็บไซต์ของเจ้าของ QR Code จริงหรือไม่ โดยเฉพาะเว็บไซต์เกี่ยวกับธนาคาร สถาบันการเงิน ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนกรอกรหัสผ่าน (password) เข้าใช้งานเพราะอาจถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ถอนเงิน หรือโอนเงินไปบัญชีมิจฉาชีพ และควรระมัดระวังการลงชื่อเข้าใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ตลอดจนการติดตั้งแอปพลิเคชัน เพื่อป้องกันไม่ให้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล หรือติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ในอุปกรณ์ของตน
3.กรณี QR Code ที่ปรากฏในเอกสารราชการ หรือเอกสารของเอกชนต่าง ๆ หากไม่แน่ใจว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ให้โทรศัพท์ตรวจสอบกับหน่วยงานเจ้าของเอกสารโดยตรงก่อนที่จะสแกน QR Code
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายจากการอาชญากรรมทางไซเบอร์ สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งความออนไลน์ได้ด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://www.thaipoliceonline.com/ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย