บางเขน 17 ก.ย.- “ชัยวุฒิ” ยัน คว่ำร่างพ.ร.บ.กัญชา พรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่เกมการเมือง ทุกคนทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชน หวั่นเปิดช่องให้คนใช้ในทางที่ผิด เชื่อคงไปคุยกันในวิปรัฐบาล มองเห็นต่างการเมืองเป็นเรื่องปกติระบอบประชาธิปไตย อย่าไปซีเรียส ถ้าเห็นตรงกันก็เป็นเผด็จการ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่าถูกพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ จับมือพรรคเพื่อไทย คว่ำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง โดยยืนยันว่าเรื่องการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ที่อาจจะเห็นไม่ตรงกัน ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีความเห็นไม่ตรงกันบ้างในบางเรื่อง ทุกคนที่คิดก็ทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะเรื่องกัญชาทุกคนก็ทราบว่าอยากให้นำไปใช้ประโยชน์ ในทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์ที่แท้จริงกับประชาชน
ขณะเดียวกันก็มีคนท้วงติงว่าถ้าเขียนกฎหมายไม่ดี ไม่รอบคอบ จะเปิดช่องให้คนนำกัญชามาใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม มอมเมาเยาวชน หรือใช้สันทนาการมากเกินไป จนอาจเกิดอันตราย ซึ่งต้องมีการออกกฎหมายควบคุม ถ้ากฎหมายออกมาแล้วควบคุมไม่ได้จริงจะสร้างปัญหา เป็นสิ่งที่พรรคการเมือง หรือ ส.ส.บางคนรับไม่ได้ จึงอยากให้รอบคอบ ยืนยันไม่ใช่เกมการเมือง ข้อเท็จจริงทุกพรรคมีการโหวตทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ไม่ได้คุมเสียงได้ 100% และเป็นเรื่องของส.ส. และความคิดของแต่ละคนด้วย
ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนายอนุทินหรือไม่นั้น นายชัยวุฒิกล่าวว่าเดี๋ยวคงจะมีการไปพูดคุยกันในวิปรัฐบาล ยังมีเวลา เพราะในวิปมีตัวแทนรัฐบาลทุกพรรคอยู่แล้ว คงจะมีการพูดคุยกันเพื่อปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม รอบคอบยิ่งขึ้นวันนี้ วันนี้ไม่ใช่เรื่องของการตีตก แต่มีบางมาตรา บางประเด็น ที่ ส.ส.หรือคณะกรรมาธิการหลายคนเห็นว่าไม่เหมาะสม อยากให้ปรับปรุงแก้ไข ซึ่งการจะแก้ไขในการประชุมพิจารณาทำไม่ได้ จึงอยากให้มีการคุยกันในชั้นกรรมาธิการใหม่ เพื่อให้ ส.ส.ที่ทักท้วงไปดู ย้ำทุกอย่างทำเพื่อความรอบคอบไม่ใช่เรื่องการเมืองไม่มีใครได้ผลประโยชน์ ไม่มี ส.ส.คนไหนปลูกกัญชาขาย
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้มีการห้ำหั่นกันของพรรคร่วม พรรคภูมิใจไทยจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย และอาจทำให้เรือแป๊ะล่มนั้น นายชัยวุฒิ ยืนยันขณะนี้ยังไม่ล่ม ยังไปได้ เพราะสภาและส.ส.พรรคร่วมทุกคนก็ยังจับมือกันทำงานในเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ส่วนเรื่องกฎหมายหรือความเห็นต่าง เป็นเรื่องปกติทางการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ถ้าเห็นเหมือนกันหมดก็เป็นเผด็จการ ก็ต้องเห็นต่างกันบ้าง อย่าไปซีเรียส แก้ไขกันไป นี่เป็นข้อดีของระบอบประชาธิปไตย ส่วนจะถึงขั้นในอนาคตจะจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ต้องดูหลังเลือกตั้ง ว่าใครได้ ส.ส.เท่าใด และข้อตกลงในการเป็นพรรคร่วมรวมถึงสัดส่วนรัฐมนตรีก่อน .-สำนักข่าวไทย