เมียนมาร์ 15 เม.ย.-เทศกาลติงยานหรือเทศกาลสงกรานต์ของเมียนมาร์เริ่มขึ้นแล้วทั่วประเทศในวันนี้ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไม่เพียงชาวไทยเท่านั้นที่มีการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์กันในวันนี้ ที่เมียนมาร์ก็เช่นกันเทศกาลสงกรานต์ของเมียนมาร์ร์เรียกว่า “เทศกาลติงยาน” หรือปีใหม่ ได้เริ่มขึ้นทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงเช้า โดยพิธีเปิดเทศกาลถูกจัดขึ้นในภูมิภาคและรัฐต่างๆ
ส่วนที่นครย่างกุ้งมีการตั้งจุดสาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดหน้าศาลากลางเมือง พร้อมการแสดงเต้นรำตามแบบประเพณีและวัฒนธรรมเมียนมาร์ ส่วนตามถนนหนทางต่างๆก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่ออกมาร้องรำทำเพลง และสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ซึ่งทางการนครย่างกุ้งได้จัดตั้งจุดเล่นน้ำขนาดใหญ่ 22 แห่ง ขนาดกลาง 10 แห่ง และขนาดเล็ก 27 แห่ง ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อิทธิพลของชาติตะวันตกได้แผ่เข้า ทำให้การเฉลิมฉลองเทศกาลติงยานเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบใหม่ด้วยการแสดงบนเวที การเล่นดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และการเต้นรำสมัยใหม่
ส่วนที่ยะไข่ พื้นที่พิพาทชนกลุ่มน้อยโรฮิงญา แต่พอถึงช่วงปีใหม่ตามประเพณีดั้งเดิมก็มีการจัดงานด้วย ทั้งพิธีสงฆ์และการละเล่นสาดน้ำเช่เดียวกัน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ การประกวดสาวลาว Miss Vientiane 2017 ได้คัดสาวงามจาก 50 คน จนเหลือเพียง 20 คนสุดท้ายที่ได้เข้ารอบไปชิงมงกุฎนางสาวนครหลวงเวียงจันทร์ 2017 ผู้ที่คว้ารางวัลนางสาวนครหลวงเวียงจันทน์ Miss Vientiane 2017 ได้แก่ MVT10 น้องโยโย วานิพอน พูมิพ่วงตำแหน่งขวัญใจช่างภาพ และนางสาวทันสมัยอีกด้วย เป็นประจำทุกปีที่ สปป.ลาวจะจัดการประกวดเพื่อฉลองบุญปีใหม่ลาว และให้ผู้ได้รับตำแหน่งเป็นทูตวัฒนธรรมเผยแพร่วัฒนธรรมช่วงฉลองบุญปีใหม่ลาว
รัฐบาลลาวเน้นย้ำการฉลองสงกรานต์และการเล่นสาดน้ำ โดยขอให้แต่งกายมิดชิดให้ระมัดระวังหลีกเลี่ยงการถูกลวนลามด้วย ส่วนที่แขวงจำปาสัก วัดปะทุมพอน บ้านหลัก 40 ชาวบ้านต่างมาสรงน้ำพระแต่เป็นพระสงฆ์จริงๆ ด้วยการล้างเท้าตามความเชื่อโบราณ อีกทั้งสรงน้ำพระพุทธรูป รวมทั้งการสาดน้ำเล่นกัน แต่บางตา เนื่องจากมีน้ำน้อย รัฐบาลรณรงค์ประหยัดน้ำ ขณะที่ “สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานเปิดงานเทศกาล “นครสงกรานต์” ซึ่งตรงกับเทศกาลปีใหม่ของกัมพูชา ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่บริเวณปราสาทบายน ในเขตนครธม จังหวัดเสียมราฐ ระหว่างวันที่ 13 -16 เมษายนนี้ ส่วนที่บรรยากาศเพื่อนบ้านกัมพูชาก็คึกคักสนุกสนานไม่แพ้กัน รำวงสนุกสนานกันทั่วไปตามสถานที่ต่างๆในกรุงพนมเปญ .-สำนักข่าวไทย