นนทบุรี 4 ก.ย.- คดี “น้องเจ้าขา” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกทำร้ายสาหัส ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุดมีคดี “น้องพีพี” ให้พ่อกับย่าลุยแจ้งความแม่เด็กกับสามีใหม่อีก หลังผลชันสูตรออกมาว่า “ลำไส้หลุดจากขั้ว” ส่วนคดี “น้องเจ้าขา” แจ้งความเพิ่มข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี
ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายณัฐพล และนางอนันต์ ซึ่งเป็นพ่อและย่าของน้องเจ้าขา และน้องพีพี บุกโรงพักบางบัวทอง เพื่อแจ้งความเอาผิดแม่เด็กและสามีใหม่เพิ่ม โดยนางอนันต์บอกว่า มาแจ้งข้อหาเพิ่มกรณีผู้ต้องหากับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากทราบผลชันสูตรจากแพทย์ว่า น้องพีพีลำไส้หลุดออกจากขั้วทำให้เสียชีวิต ไม่ใช่การตายโดยปกติ ประกอบกับตอนแรกผู้ต้องหาไม่ยอมรับว่าทำทารุณน้อง บอกเพียงว่าหลับไป แล้วเสียชีวิต แต่เมื่อผลพิสูจน์ชี้ชัด ก็ต้องมาแจ้งความเอาผิดเพิ่ม
ส่วนน้องเจ้าขา หลานสาววัย 3 ขวบ ที่ถูกทำร้ายอาการสาหัส แพทย์อธิบายว่าร่างกายช่วงล่างของน้องทั้งด้านหน้าและหลังมีร่องรอยน้องฉีกขาด แต่ไม่เหมือนการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ยังคงต้องดูท่าทีเพิ่ม เพราะตอนนี้ไปขอผลการรักษาแล้ว แต่ยังไม่ได้ เจ้าหน้าที่ให้รอมาติดต่อใหม่ในวันพรุ่งนี้ อย่างไรก็ตาม ยอมรับกรณีน้องมีแผลทั้งเก่าและใหม่ตามร่างกาย เพราะปกติตอนที่ย่าดูแล น้องไม่เคยมีรอยอะไร รวมถึงคาใจที่มีการโกนหัวน้อง แถมฟันทั้งบนและล่างหายไป 4-5 ซี่
“ทนายรณรงค์” ลั่นแจ้งข้อหา “ข่มขืน” เพิ่ม
ด้านทนายรณณรงค์ ยอมรับครอบครัวยังคาใจประเด็นกระทำอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรากับเด็ก และวันนี้มาแจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปีเพิ่มกับผู้ที่กระทำกับน้องเจ้าขา พร้อมบอกว่าแม้ไม่เจอคราบอสุจิ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ถูกกระทำ
ตร.ลั่นทำตามหลักฐาน พร้อมคืนความยุติธรรมให้เด็ก
ขณะที่ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสตร์ ผู้กำกับการ สภ.บางบัวทอง ย้ำทุกอย่างทำไปตามขั้นตอนกฎหมาย เบื้องต้นคดีน้องเจ้าขา ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายสาหัสและกระทำอนาจาร และกำลังเรียกสอบปากคำแพทย์เพิ่มเติม ส่วนคดีของน้องพีพี เตรียมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานให้มัดแน่นขึ้น พร้อมกับย้ำว่า ตำรวจดำเนินการตรวจสอบหลายขั้นตอน แต่รายละเอียดอาจบอกไม่ได้หมด เพราะผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ต้องไปสู้กันในชั้นศาล แต่หากญาติติดใจสงสัย อะไรตอบได้ พร้อมตอบคำถาม รวมถึงอธิบายเพิ่มเติมกรณีน้องพีพี ว่าในตอนแรกน้องเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นับว่าเป็นคนไข้ของโรงพยาบาล และแพทย์ไม่ได้แจ้งว่า น้องเสียชีวิตเพราะถูกทำร้าย และครอบครัวอาจต้องเป็นคนให้ชันสูตร แต่ในเมื่อน้องเป็นมุสลิม ไม่มีการผ่าพิสูจน์ แต่เนื่องจากพนักงานสอบสวนสงสัย จึงให้ผ่าพิสูจน์ ซึ่งผลเพิ่งออกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม แต่แม่น้องไม่ติดใจสาเหตุเสียชีวิต และแม่น้องได้หย่าขาดกับสามีเก่า สุดท้ายพนักงานสอบสวนจึงไม่ทำอะไรต่อไม่ได้.-สำนักข่าวไทย