กรุงเทพฯ 14 เม.ย.-กระทรวงมหาดไทยสั่งการทุกจังหวัดและอำเภอ เพิ่มความเข้มข้นในการหยุดยั้งผู้ดื่มสุราไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ทุกจังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2560 ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 3 ของการดำเนินการดังกล่าว พบว่า มีจำนวนการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ซึ่งสาเหตุหลักยังคงเกิดจากการดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะมากที่สุด และพบว่าพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ พื้นที่ถนนสายรองในชุมชนหมู่บ้านมากกว่าถนนหลวง หรือถนนสายหลัก รวมทั้งอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์มากที่สุด
นายกฤษฎา กล่าวด้วยว่า กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า การ “ห้าม” หรือ “หยุดยั้ง” คนที่ดื่มสุราหรือคนเมาไม่ให้ขับรถ รวมทั้งการดูแลประชาชนและการดำเนินการ “ควบคุมพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน” หรือแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนพื้นที่จัดงานสงกรานต์ หรืองานรื่นเริงให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเป็นการลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจากอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ กระทรวงมหาดไทยจึงสั่งการทุกจังหวัดและอำเภอ เน้นย้ำและเพิ่มความเข้มงวดกวดขัน ด้วยการระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ที่ดื่มสุราแล้วมาขับยานพาหนะอย่างเข้มข้นมากขึ้น ดังนี้ 1.กำหนดให้พื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชนที่จัดงานหรือมีแหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้านชุมชนต้องจัดให้มีสถานที่จอดพักยานพาหนะ และผู้จัดงานต้องจัดให้มีบุคคลมาทำหน้าที่เฝ้าระวังดูแลหรือแจ้งเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะ ด้วยการรับฝากกุญแจชั่วคราวและต้องไม่คืนกุญแจให้ผู้ดื่มสุราที่มารับรถหรือยานพาหนะอย่างเด็ดขาด
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า 2.จัดชุดเจรจาหรือเคาะประตูบ้านไปพูดคุยทำความเข้าใจกับบุคคลหรือครอบครัวในหมู่บ้านหรือชุมชนที่เคยมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำแล้วแสดงอาการไม่สุภาพ หรือผิดจารีตประเพณี หรือผิดกฎหมาย เช่น ยิงปืนขึ้นฟ้า ขับรถเร็ว ส่งเสียงเอะอะโวยวาย ก่อเหตุรำคาญในหมู่บ้านชุมชน เป็นต้น เพื่อให้บุคคลในครอบครัวได้ช่วยกันควบคุมบุคคลหรือลูกหลานในครอบครัวไม่ให้กระทำพฤติกรรมดังกล่าวอีกต่อไป 3.ปรับมาตรการด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ เช่น เพิ่มเจ้าหน้าที่ดูแลจุดตรวจในหมู่บ้าน หรือชุมชน จัดชุดลาดตระเวนสอดส่องดูแล โดยเน้นตรวจหาแหล่งหรือจุดดื่มสุราในหมู่บ้าน และเฝ้าประจำจุดจัดงานหรือสถานที่ท่องเที่ยวในหมู่บ้านหรือชุมชน เพื่อควบคุมการใช้ยานพาหนะของนักท่องเที่ยว หรือตรวจยึดรถหรือกุญแจรถของผู้ร่วมงานหากพบว่ามีการดื่มสุรา
นายกฤษฎา กล่าวด้วยว่า 4.เพิ่มเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตรวจตราอย่างเข้มงวดในร้าน หรือบริเวณที่มีการจำหน่ายสุราให้ปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งในด้านสถานที่ ระยะเวลา และอายุของผู้ซื้อและจำหน่ายสุราอย่างเคร่งครัด ไม่ให้มีการผ่อนปรนอย่างเด็ดขาด 5.จัดชุดปฏิบัติการที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือ พ.ร.บ.สถานบริการฯ หรือ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียงออกตรวจสอบในสถานที่สาธารณะหรือพื้นที่ต่าง ๆ ให้ทั่วถึงอย่างเข้มข้นตามเงื่อนไขของกฎหมาย โดยให้กวดขันการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
“ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เข้มงวดกวดขันบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งให้รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนให้เห็นโทษของการดื่มสุราแล้วขับรถ โดยใช้สื่อในท้องที่ทุกรูปแบบประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้” นายกฤษฎา กล่ว.-สำนักข่าวไทย