สาววัย 26 ร้อง ปคม. ถูกหลอกเป็นแก๊งโรแมนซ์สแกมข้ามชาติ

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- เจ้าของเพจสายไหมต้องรอดพาสาววัย 26 ปี แจ้งความตำรวจ ปคม. ถูกหลอกให้เป็นแก๊งโรแมนซ์สแกมข้ามชาติที่ฟิลิปปินส์ บังคับขู่เข็ญ ทำร้ายทรมานให้ยอมทำงาน หากอยากกลับไทยต้องจ่ายค่าไถ่คนละ 100,000 บาท


นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พาหญิงสาว อายุ 26 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กรณีที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งขบวนการค้ามนุษย์หลอกให้ไปทำงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยบังคับขู่เข็ญ และทรมานด้วยการทำร้ายร่างกาย

ผู้เสียหายสาวเล่าว่า ได้เข้าไปหางานในเพจเฟซบุ๊กชื่อ “หางานในประเทศฟิลิปปินส์” ซึ่งได้ชักชวนว่าจะพาไปทำงานบริษัทซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเดินทางฟรี อยู่ฟรี กินฟรี มีรายได้ดี เงินเดือนเริ่มที่ 30,000 บาท และจะได้ค่าคอมมิชชั่นเพิ่มอีก จึงติดต่อไปสอบถามยังแอดมินเพจดังกล่าว จากนั้นก็มีการพูดคุยเจรจากันเพียง 4 วัน จนหลงเชื่อตัดสินใจเดินทางไปยังประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีคนไทยร่วมเดินทางไปทั้งหมด 5 คน


พอไปถึงวันแรกทางบริษัทก็ให้พักผ่อนก่อน 1 วัน ก่อนจะให้เริ่มทำงานในวันถัดไป โดยมีคนไทย ฟิลิปปินส์ และจีน ดูแลบริษัทดังกล่าว แต่ปรากฏว่าไม่ได้เป็นบริษัทซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลแต่อย่างใด กลับกลายให้แอบอ้างเป็นคนอื่นเพื่อหลอกลวงคนไทยด้วยกันในลักษณะของแก๊งโรแมนซ์สแกม หรือแสร้งรักออนไลน์ ซึ่งตนเองกับเพื่อนๆ อดทนทำประมาณ 1 อาทิตย์ จนรู้สึกว่าไม่อยากทำต่อ เพราะไม่อยากหลอกคนอื่น และไม่ใช่งานตามที่คุยตกลงไว้ จึงขอกลับประเทศไทย โดยมีคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อ 11 คน ซึ่งไม่เต็มใจทำงานในลักษณะกล่าวตกลงกลับประเทศไทยด้วย แต่กลับถูกผู้ดูแลซึ่งเป็นคนจีนทำร้ายร่างกายต่างๆ นานา เช่น ใส่กุญแจมือ ใส่โซ่ตรวน ตบตีเตะ ช็อตไฟฟ้า ให้ทรมาน โดยให้ข้อเสนอว่าหากอยากกลับประเทศไทยต้องจ่ายค่าไถ่คนละ 100,000 บาท จึงจะปล่อยให้กลับ ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นเวลาถึง 18 วัน กว่าที่ญาติจะหาเงินมาไถ่ตัวให้ได้

นอกจากนี้ คนดูแลยังบังคับให้ถอดเสื้อผ้าถ่ายคลิปเก็บไว้ โดยข่มขู่ว่าหากมีการแจ้งความเป็นคดีจะปล่อยคลิปในโลกโซเชียล จากนั้นผู้เสียหายจำนวน 8 คน ก็ได้เดินทางกลับประเทศไทย ส่วนอีก 3 คน ญาติไม่มีเงินไถ่ตัว แต่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ก็ช่วยเหลือมาได้อย่างปลอดภัยในเวลาต่อมา ผู้เสียหายจึงมาขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อพาเข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับแก๊งค้ามนุษย์และผู้ที่เป็นธุระจัดหาทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก