เอกชนกังวลขึ้นค่าไฟกระทบประชาชน-ต้นทุนการผลิต

กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยผลสำรวจ FTI Poll พบว่า เอกชนกังวลขึ้นค่าไฟสูงเกินไปในครั้งเดียว กระทบประชาชน-ต้นทุนการผลิต หลังมติ กกพ. เห็นชอบแนวทางการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.65 มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์/หน่วย


นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 20 ในเดือนสิงหาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “วิกฤตค่าไฟฟ้าแพง กระทบอุตสาหกรรมแค่ไหน” หลังมติสำนักคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เห็นชอบแนวทางการปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 มาอยู่ที่ 93.43 สตางค์/หน่วย เพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์/หน่วย จากค่า Ft งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ที่เก็บอยู่ 24.77 สตางค์/หน่วย ส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.72 บาท/หน่วย หรือเพิ่มขึ้นกว่า 18% จากค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2565 ที่เก็บอยู่ 4 บาท/หน่วย นั้น จากผลสำรวจ FTI Poll พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มีความกังวลว่า การปรับขึ้นค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงเกินไปในครั้งเดียว จะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งในส่วนของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะถูกส่งต่อไปที่ราคาสินค้าและวัตถุดิบตามต้นทุนค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน เมื่อเทียบกับประเทศเวียดนาม ที่ดำเนินนโยบายในการคงอัตราค่าไฟฟ้าที่ 2.8 บาท/หน่วย ตลอดปี 2565 โดยผลสำรวจพบว่า ภาคอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะมีต้นทุนจากค่าไฟฟ้า คิดเป็น 10-30% จากต้นทุนการผลิตทั้งหมด ดังนั้น การขึ้นค่าไฟฟ้าในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ในอัตราที่สูงทันที จะทำให้ผู้ประกอบการมีความจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอีกไม่เกิน 10% ภายในปลายปีนี้

ในส่วนของมาตรการบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มองว่า ภาครัฐควรพิจารณาทยอยปรับขึ้นค่า Ft โดยให้ค่าไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% ต่องวด (งวดละ 4 เดือน) ควบคู่ไปกับการออกมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs เช่น การลดค่าไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากค่าไฟฟ้าที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2566 จากแนวโน้มราคาเชื้อเพลิงที่นำมาผลิตไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสูง ภาระที่ กฟผ.ได้แบกรับต้นทุนค่าเชื้อเพลิง ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 – เมษายน 2565 กว่า 83,010 ล้านบาท ซึ่งจะต้องทยอยส่งต่อต้นทุนดังกล่าวมายังผู้ใช้ไฟฟ้า รวมทั้งแนวโน้มค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง 


การแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพงในระยะยาว ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่เสนอให้ภาครัฐควรมีการทบทวนโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย มีการส่งเสริมและปรับลดขั้นตอนให้เอกชนสามารถลงทุนโรงไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรี รวมถึงมีการปรับลดขั้นตอนในการขออนุมัติอนุญาตใช้อุปกรณ์พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและเอกชนให้สะดวกรวดเร็วและต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาพลังงานได้ในระยะยาว และยังช่วยแบ่งเบาภาระจากภาครัฐในการบริหารจัดการด้านพลังงาน ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมเอง ผู้บริหาร ส.อ.ท. แนะนำว่า ควรเตรียมความพร้อมรับมือกับภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าที่จะปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ เช่น ลงทุนในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้ภายในโรงงาน เช่น ติดตั้ง Solar Rooftop มีการปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนพลังงาน รวมทั้งนำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (EMS) มาใช้ และปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ

การสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 215 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 20 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้

1.  ต้นทุนค่าไฟฟ้าของอุตสาหกรรมคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นของต้นทุนการผลิตทั้งหมด


     อันดับที่ 1 : 10-30% 54.9%

     อันดับที่ 2 : น้อยกว่า 10% 27.4%

     อันดับที่ 3 : 30-50% 13.0%

     อันดับที่ 4 : มากกว่า 50%  4.7%

2. การปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) จะส่งผลกระทบต่อราคาขายสินค้าและบริการอย่างไร

     อันดับที่ 1 : ปรับราคาสินค้าและบริการขึ้น ไม่เกิน 10% 44.2%

     อันดับที่ 2 : ราคาสินค้าและบริการคงที่  27.4%

     อันดับที่ 3 : ปรับราคาสินค้าและบริการขึ้น ไม่เกิน 20% 22.3%

     อันดับที่ 4 : ปรับราคาสินค้าและบริการขึ้น ไม่เกิน 30%  6.1%

3. ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลต่อการปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ในเรื่องใด

     อันดับที่ 1 : ราคาสินค้าและวัตถุดิบที่ต้องปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนค่าไฟฟ้า 76.7%

    อันดับที่ 2 : ความสามารถในการแข่งขันลดลง จากต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น 61.4%

                    เมื่อเทียบกับเวียดนามที่คงค่าไฟฟ้าที่ 2.8 บาท ตลอดปี 2565   

     อันดับที่ 3 : กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังซื้อที่หดตัว 55.8%

     อันดับที่ 4 : เร่งอัตราเงินเฟ้อให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น 49.8%

4. ภาครัฐควรดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอย่างไร

     อันดับที่ 1 : ทยอยปรับขึ้นค่า Ft โดยให้ค่าไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% ต่องวด (งวดละ 4 เดือน) 68.8%

     อันดับที่ 2 : ลดค่าไฟฟ้าให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการ SMEs 52.1%

     อันดับที่ 3 : เปิดให้สามารถซื้อขายไฟฟ้าระหว่างเอกชนผ่านสายส่งของการไฟฟ้า 50.2%

     อันดับที่ 4 : ปรับลดอัตราการคิดค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาของการใช้ (TOU) หรือปรับลดช่วงเวลา On Peak 47.0%

5. ภาครัฐควรดำเนินการเพื่อป้องกันวิกฤตค่าไฟฟ้าแพงในระยะยาวอย่างไร

     อันดับที่ 1 : ทบทวนโครงสร้างค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย 66.5%

     อันดับที่ 2 : ส่งเสริมและปรับลดขั้นตอนให้เอกชนสามารถลงทุนโรงไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรี 60.9%

     อันดับที่ 3 : ปรับลดขั้นตอนในการขออนุญาตใช้อุปกรณ์พลังงานหมุนเวียนในภาคธุรกิจและเอกชน 58.1%

     อันดับที่ 4 : ปรับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) โดยเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงาน

หมุนเวียน 53.0%

6.  ภาคอุตสาหกรรมควรปรับตัวรับมือกับค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างไร

     อันดับที่ 1 : การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้ภายในโรงงานเช่น ติดตั้ง Solar Rooftop 86.0%

     อันดับที่ 2 : ปรับแผนการผลิตเพื่อลดต้นทุนพลังงาน 63.7%

     อันดับที่ 3 : นำระบบการบริหารจัดการพลังงาน (EMS) มาใช้ และปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อการอนุรักษ์พลังงาน 58.1%

     อันดับที่ 4 : ออกแบบและปรับปรุงอาคาร/โรงงานเพื่อการประหยัดพลังงาน 43.7%.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง