อิสลามาบัด 30 ส.ค. – รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการวางแผนของปากีสถาน ประเมินว่า ปากีสถานมีมูลค่าความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 364,500 ล้านบาท) และเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยปากีสถานรับมือกับผลกระทบจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์
นายอาห์ซาน อิกบาล รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการวางแผนปากีสถาน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สเมื่อวันจันทร์ว่า ปากีสถานมีมูลค่าความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คน และมีบ้านเรือนเกือบ 1 ล้านหลังที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ผู้ประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ปากีสถานอาจต้องใช้เวลาอีกราว 5 ปีในการสร้างเมืองใหม่และฟื้นฟูประเทศ ส่วนประชาชนอาจต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนอาหารฉับพลันในไม่ช้านี้ นายอิกบาลยังระบุว่า เหตุน้ำท่วมปากีสถานครั้งนี้นับว่ารุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553 ขณะที่องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ประกาศให้อุทกภัยในปากีสถานเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
ในขณะเดียวกัน นายมิฟทาห์ อิสมาอิล รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของปากีสถาน เผยว่า ปากีสถานอาจพิจารณานำเข้าพืชผักจากอินเดีย ซึ่งมีปัญหาขัดแย้งกันและไม่ได้ทำการค้าร่วมกันมาเป็นเวลานานหลายปี รวมถึงการหาทางนำเข้าอาหารจากประเทศอื่น ๆ เช่น ตุรกีและอิหร่าน ส่วนนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ระบุว่า เขารู้สึกเศร้าใจต่อเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถาน ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปากีสถานทำให้ท้องถนน พื้นที่เกษตร โครงสร้างพื้นฐาน และสะพานหลายแห่งเสียหายหนัก นอกจากนี้ ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,000 รายนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน และมีชาวปากีสถานกว่า 33 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 15 จากประชากรทั้งหมด 220 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย