กรุงเทพฯ 22 ส.ค.-กบง. ขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบราคาก๊าซหุงต้มเดือนละ 100 บาท อีก 3 เดือน พร้อมชงแนวทางช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแบบขั้นบันได เริ่มต้นจากผู้ใช้ไฟฟ้า 300-500 หน่วย เตรียมเสนอครม.อนุมัติภายในเดือนนี้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.)ว่า ที่ประชุม ได้มีการพิจารณา การขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตามที่รัฐบาลได้มีมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านราคา LPG โดยมีโครงการยกระดับความช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นเงิน 100 บาทต่อคน ซึ่งเดิมมีกำหนดสิ้นสุดโครงการฯ วันที่ 30 กันยายน 2565 นั้น ล่าสุด ที่ประชุม กบง. เห็นชอบการขยายระยะเวลาโครงการออกไป อีก 3 เดือน โดยจะเริ่มประมาณกลางเดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม 2565 มอบหมายให้ กรมธุรกิจพลังงานนำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในเดือนนี้ เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาโครงการฯ และจัดทำคำขอรับงบประมาณต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่ประชุม กบง. ยังพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน และมีมติเห็นชอบแนวทางช่วยเหลือ ดังนี้ (1) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐาน โดยการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าจำนวน 92.04 สตางค์ต่อหน่วย เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 – ธันวาคม 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้า (2) กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือนให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนกันยายน 2565 – ธันวาคม 2565 แบบขั้นบันได ในอัตราร้อยละ 15 -75
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการตามแนวทางช่วยเหลือกลุ่ม (1) และ (2) ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของ กฟน. และ กฟภ. จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณร้อยละ 80 ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 89 ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย นอกจากนี้จะดำเนินการให้ครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณรวม 2,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 8,000 ล้านบาทสำหรับ 4 เดือน พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอรับสนับสนุนแหล่งงบประมาณในการดำเนินมาตรการดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง. ได้มีการพิจารณาปรับปรุงกรอบหลักเกณฑ์การคัดเลือกโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) (กลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม) สำหรับปี 2565 – 2573 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบปรับปรุงเงื่อนไข คุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามให้ด้านการเป็นโครงการใหม่และการมีสัญญาผูกพันกับภาครัฐ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติและเห็นควรยกเลิกเงื่อนไขในส่วนของเงื่อนไขการเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุนในรูปแบบอื่นแล้ว และการมีปัญหาจากการรับซื้อไฟฟ้ารอบที่ผ่านๆ มา เนื่องจากอาจขัดกับหลักการของกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องใช้ดุลพินิจและอาจมีปัญหาในทางปฏิบัติได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีมติเห็นชอบให้ กกพ.สามารถพิจารณาปรับเป้าหมายการรับซื้อไฟฟ้ารายปีของแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 ในช่วงปี พ.ศ. 2564 – 2573 (ปรับปรุงเพิ่มเติม) เฉพาะกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง ได้ตามความเหมาะสม ให้สอดคล้องกับผลคะแนนความพร้อมด้านเทคนิค ข้อเสนอขายไฟฟ้า กำหนด SCOD และศักยภาพระบบไฟฟ้า ทั้งนี้ ไม่ให้เกินกรอบเป้าหมายรวมของแต่ละประเภทเชื้อเพลิงตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย