ปักกิ่ง 7 เม.ย. – ทางการกรุงปักกิ่งของจีนเตรียมเพิ่มงบประมาณพัฒนาระบบกำจัดขยะภายในเมือง แต่ยังคงเผชิญอุปสรรคในการปลูกฝังประชาชนให้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะ
รายงานระบุว่า กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีนที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 22 ล้านคน กำลังประสบปัญหาขยะล้นเมือง โดยสามารถจัดเก็บขยะตามบ้านเรือนได้ทั้งสิ้น 8.7 ล้านตันเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงทศวรรษก่อนหน้าเกือบสองเท่า อีกทั้ง ประชาชนยังไม่ให้ความสนใจในการคัดแยกขยะ อย่างไรก็ดี ทางการตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการคัดแยกและนำขยะมูลฝอยของครัวเรือนทั้งหมดกลับมาใช้ใหม่ให้ได้ภายในปี 2563 โดยจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนเป็นปีละ 2,000 ล้านหยวน (กว่า 10,000 ล้านบาท)
ทั้งนี้ ทางการกรุงปักกิ่งสนับสนุนให้ประชาชนคัดแยกขยะอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดตั้งกองทัพทีมงานปลอกแขนสีเขียว 20,000 คนให้ความรู้ในการคัดแยกขยะมาตั้งแต่ปี 2553 แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความสนใจ เนื่องจากไม่มีบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนที่ไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาทำได้แค่เชิญชวนและขอความร่วมมือเท่านั้น แต่ยังไม่มีมาตรการที่มีบทลงโทษออกมาอย่างเป็นทางการ ด้านบรรดาผู้บริหารบริษัทจัดการขยะในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า จำเป็นต้องให้เวลาประชาชนในการสร้างความคุ้นชินกับการคัดแยกขยะ เพราะหลายๆ คนยังไม่เห็นประโยชน์ และยังมีความคิดที่ว่าต่อให้ช่วยแยกขยะให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกนำมากลับมาผสมรวมกันระหว่างการขนส่งอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางจีนตั้งเป้าที่จะออกกฎบังคับให้ประชาชนใน 46 เมือง รวมถึงกรุงปักกิ่ง คัดแยกขยะก่อนทิ้ง รวมถึงจะลงทุน 200,000 ล้านหยวน (กว่า 1 ล้านล้านบาท) สนับสนุนการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ให้ได้ร้อยละ 35 ภายในสิ้นปี 2563.- สำนักข่าวไทย