25 มี.ค. – ยูเครนอ้างว่า ได้ทำลายเรือรบของรัสเซียซึ่งมีความสำคัญทางการทหารในการปิดล้อมทางใต้ของยูเครน ขณะที่รัสเซียเปิดข้อมูลกล่าวหาลูกชายผู้นำสหรัฐว่าพัวพันการพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน
กองทัพเรือของยูเครนเผยแพร่ภาพของท่าเรือ เบอร์ดิอานส์ บนชายฝั่งทะเลอาซอฟทางใต้ของยูเครน โดยมีกลุ่มคันดำและเปลวไฟพวยพุ่งออกมา พร้อมระบุว่า นี่เป็นเรือยกพลของรัสเซียที่ถูกยิงทำลายไปพร้อมๆ กับทำให้เรือรบอีก 2 ลำที่เสียหายไปด้วย ขณะนี้กำลังตรวจสอบรายละเอียดเพื่อยืนยันคำกล่าวอ้างของยูเครนและยังไม่มีท่าทีของรัสเซียต่อภาพนี้ออกมา แต่หากเป็นจริงถือว่าเป็นความเพลี่ยงพล้ำครั้งสำคัญของรัสเซีย เพราะเรือยกพลลำนี้เป็นส่วนสำคัญในการสู้รบทางใต้ของยูเครน สามารถบรรทุกรถถังและยานเกราะได้กว่า 60 คัน และกำลังพล 400 นาย ที่กลายเป็นเรือรบรัสเซียลำแรกเทียบท่าเรือเบอร์ดิอานส์ได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองมาริอูโพล ที่รัสเซียปิดล้อมและโจมตีอย่างหนักมาตั้งแต่เริ่มสงคราม
ส่วนฝ่ายรัสเซียนั้น ในการแถลงล่าสุด พลตรี อีกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย กล่าวว่า ทหารรัสเซียได้ยึดครองเมือง อิซยัม ทางตะวันออกของยูเครนแล้วหลังจากเกิดการสู้รบอย่างหนักมาหลายวัน นอกจากนั้นยังเผยภาพที่ระบุว่า เป็นการทำลายระบบต่อสู้อากาศยานของยูเครน แต่ไม่ได้บอกตำแหน่งที่ตั้ง
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียยังได้แถลงอีกเรื่อง โดยหัวหน้ากองกำลังป้องกันอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ ที่ได้เปิดเผยหลักฐานว่า นายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวข้องกับการลอบตั้งห้องแล็บพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน ตามคำกล่าวหาของรัสเซียนั้น กองทุนเพื่อการลงทุนของนายฮันเตอร์ ไบเดน มีส่วนสนับสนุนการเงินให้กับห้องแล็บตามหลักฐานนี้พบความโยงใยระหว่างหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ ห้องแล็บอาวุธเคมี
อย่างไรก็ตาม ยูเครน โต้แย้งว่า ห้องแล็บเหล่านี้ใช้ทำการวิจัยด้านการแพทย์และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐจริง แต่การวิจัยมุ่งเน้นศึกษาจุลชีพก่อโรคซึ่งไม่ได้ดำเนินการอย่างลับ ๆเลย ส่วนสหรัฐก็โต้กลับว่ารัสเซียกล่าวหาเช่นนี้เพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้อาวุธชีวภาพหรืออาวุธเคมีเสียเอง
ประเด็นอาวุธต้องห้ามนี้เป็นหัวข้อใหญ่เช่นกันในการประชุมของบรรดาผู้นำ 30 ชาติ ที่ได้ไปประชุมสุดยอดของทั้ง นาโต, จี7 และสหภาพยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ทั้งหมดได้หารือกันถึงแนวทางในการช่วยเหลือยูเครนในการรับมือกับอาวุธเคมีที่รัสเซียอาจนำมาใช้โจมตี รวมไปถึงอาวุธชีวภาพและอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ บรรดาผู้นำยังได้ประกาศให้ความช่วยเหลือยูเครนและออกมาตรการลงโทษรัสเซียเพิ่มเติมด้วย
ด้านนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศสำคัญ จี20 ขับรัสเซียออกจากการเป็นสมาชิก เขากล่าวว่า หากมีสมาชิกชาติใดคัดค้าน เขาก็จะขอให้จี20 เชิญนาย โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เข้าร่วมประชุมจี20 ด้วย
ก่อนหน้านั้นในการประชุมองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ชาติสมาชิกต่างยืนยันที่จะไม่ส่งทหารนาโตเข้าไปร่วมรบในยูเครน เพียงแต่จะเสริมกำลัง และตั้งหน่วยรบใหม่ไปประจำการเพิ่มในยุโรปตะวันออก
สงครามยูเครนยังทำให้เกิดปฏิกิริยาในหมู่ชาวฟินแลนด์ ประเทศตั้งอยู่ติดกับรัสเซียและเคยทำสงครามกันในอดีต แต่ได้รักษาความเป็นกลางโดยไม่เข้าร่วมนาโต แต่ปัจจุบัน นาย เปคกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ เผยว่า ชาวฟินแลนด์ส่วนใหญ่ต้องการให้เข้าร่วมนาโตแล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องจัดทำข้อเสนอให้รัฐสภาพิจารณา เขากล่าวด้วยว่าชาวฟินแลนด์มากขี้นหวั่นเกรงอาวุธเคมีและอาวุธชีวภาพ . – สำนักข่าวไทย