“อเล็ก บาลด์วิน” เผยไม่ผิดจากเหตุปืนลั่นในกองถ่ายหนัง

ลอสแอนเจลีส 3 ธ.ค. – อเล็ก บาลด์วิน ดาราฮอลลีวูดชื่อดัง ระบุว่า เขาไม่ได้รู้สึกว่าตนเองมีความผิดจากเหตุทำปืนลั่นใส่ผู้กำกับภาพเสียชีวิตในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องรัสต์ (Rust) เมื่อเดือนตุลาคม โดยอ้างว่าเขาเล็งปืนไปที่ผู้กำกับภาพ แต่ไม่ได้ลั่นไก


อเล็ก บาลด์วิน ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐเป็นครั้งแรกในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นนับตั้งแต่เกิดเหตุปืนลั่นในกองถ่ายภาพยนตร์ที่รัฐนิวเม็กซิโกในเดือนตุลาคมว่า เขารู้สึกว่าต้องมีใครสักคนเป็นผู้รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร แต่เขารู้ดีว่าไม่ใช่ตัวเอง เพราะถ้าเขารู้สึกว่าเป็นคนผิดจากเหตุปืนลั่นจริง ก็อาจจะฆ่าตัวตายไปแล้ว

บาลด์วินกล่าวว่า การสืบสวนคดีนี้ควรเน้นไปที่การค้นหาว่าใครเป็นคนนำกระสุนจริงมาใช้ในกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ และเขาก็ไม่ได้ปิดบังอะไรทั้งนั้น บาลด์วินได้อธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกองถ่ายว่า มีคนบอกเขาว่าปืนกระบอกดังกล่าวไม่มีกระสุนจริง และฮาลีนา ฮัตชินส์ ผู้กำกับภาพที่เสียชีวิต ก็บอกให้เขาเล็งปืนมาทางเธอในขณะที่กำลังเตรียมถ่ายทำฉากดังกล่าว ต่อมาเขาปล่อยนกสับของปืน จากนั้นมีเสียงดังปัง และลูกกระสุนก็พุ่งออกไป ทุกคนตกใจและหวาดกลัวอย่างมาก เพราะคิดว่าปืนไม่มีกระสุน


บาลด์วินระบุว่า ตอนแรกเขาคิดว่าฮัตชินส์อาจจะเป็นลมหรือหัวใจวาย และได้รับแจ้งให้ทราบว่าเธอเสียชีวิตจากการถูกกระสุนจริงเป็นเวลาหลายชั่วโมงหลังจากที่เขาให้ปากคำกับตำรวจ นอกจากนี้ เขายังปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าอาจมีคนที่ต้องการใช้กระสุนจริงในกองถ่ายเพื่อเจตนาร้าย โดยระบุว่าอาจเป็นอุบัติเหตุมากกว่า ทั้งนี้ บาลด์วินและทีมงานอีกหลายคนของกองถ่ายภาพยนตร์เรื่องรัสต์กำลังถูกดำเนินการทางคดีแพ่ง 2 คดี ขณะที่อัยการสหรัฐปฏิเสธที่จะตัดความเป็นไปได้ในการยื่นฟ้องคดีอาญา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย