วอชิงตัน 4 ก.พ. – สหรัฐเรียกร้องให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจังหลังมีรายงานการข่มขืนและทารุณกรรมผู้หญิงที่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์ในค่ายผู้ลี้ภัยของจีนอย่างเป็นระบบ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งหลังทราบเรื่องนี้จากรายงานและคำให้การโดยตรงเกี่ยวกับการข่มขืนอย่างเป็นระบบและการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงในค่ายกักกันชนกลุ่มน้อยอุยกูร์และชาวมุสลิมอื่น ๆ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน การกระทำที่โหดร้ายทารุณนี้เป็นสิ่งที่ขัดต่อมโนธรรมและต้องได้รับการตรวจสอบอย่างจริงจัง ขณะที่นางมาริสา เพย์น รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของออสเตรเลียกล่าวว่า ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับความโปร่งใส และยังคงเรียกร้องจีนอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติ เช่น นางมิเชล บาเชเลต์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ด้านกลุ่มสิทธิมนุษชนระบุว่า รัฐบาลจีนค่อย ๆ ปิดกั้นอิสรภาพของชาวอุยกูร์ด้วยการใช้ระบบที่กดขี่ในการเฝ้าระวัง การกักขัง การปลูกฝัง และแม้กระทั่งการบังคับทำหมัน อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการละเมินสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์มาโดยตลอด และอ้างว่า ค่ายผู้ลี้ภัยไม่ใช่สถานกักกัน แต่เป็นศูนย์การศึกษาและฝึกอาชีพ
ก่อนหน้านี้ บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษหรือบีบีซีได้เปิดเผยรายงานบทสัมภาษณ์ของอดีตผู้ถูกกักกันและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ระบุว่า ผู้หญิงในค่ายผู้ลี้ภัยถูกข่มขืนอย่างเป็นระบบ ล่วงละเมิดทางเพศ และถูกทรมาน แต่นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวหาบีบีซีว่า จัดทำรายงานเท็จที่ปราศจากข้อมูลจริง.-สำนักข่าวไทย