สหรัฐ 23 พ.ย.-ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ยังไม่ฟันธงว่าจะฉีกข้อตกลงลดการปล่อยกาซเรือนกระจก หรือข้อตกลงโลกร้อนหรือไม่ แม้ตอนหาเสียง เขาจะย้ำชัดว่าเรื่องโลกร้อนเป็นเรื่องหลอกลวงและไม่มีอยู่จริง
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ว่าเขายังคงเปิดกว้างและยังไม่ตัดสินใจว่า จะนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนานาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ซึ่งนับเป็นสัญญาณรอมชอมอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เขาเคยประกาศว่าไม่เคยเชื่อถือเรื่องทษฤฏีโลกร้อน ทั้งนี้ข้อตกลงนานาชาติดังกล่าวมีรัฐบาลเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ลงนามรับรองรวมถึงสหรัฐ ที่ลงนามในยุคของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ดังนั้นการถอนตัว ของสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ก่อมลพิษอันดับต้นๆของโลก จึงบั่นทอนความพยายามลดอุณหภูมิของโลกที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เป็นสาเหตุการสูญพันธุ์ของพืชและสัตว์หลายชนิด รวมไปถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นคลื่นความร้อน น้ำท่วม และระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง
ทรัมป์กล่าวว่าเขากำลังทบทวนเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก และความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐ เพื่อดูว่ามันจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจของสหรัฐมากเพียงใด การเปลี่ยนท่าทีของทรัมป์ เล่นเอาทีมงานถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศของเขาถึงกับอึ้ง ซึ่งบ่งบอกเป็นนัยๆว่าทรัมป์ อาจยอมผ่อนปรนนโยบายสุดโต่ง ที่เคยหาเสียงเอาไว้อีกเรื่องหนึ่งแล้ว หลังเขาเปลี่ยนท่าทีเรื่องแผนการสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐ เม็กซิโก เพื่อสกัดผู้อพยพผิดกฎหมาย โดยหลังชนะศึกเลือกตั้งทรัมป์กล่าวว่าพรมแดนบางจุด อาจมีแค่รั้วกั้นก็พอก่อนหน้านั้นทรัมป์ก็พลิกลิ้น เรื่องการเอาผิดนางฮิลลารีคลินตัน กรณีที่เธอใช้อีเมลส่วนตัว ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศโดยก่อนหน้านั้น ทรัมป์กล่าวว่าจะเอานางฮิลลารีเข้าคุกให้ได้ แต่ตอนนี้ บอกว่าเขาไม่ต้องการทำร้ายครอบครัวคลินตัน เพราะเธอผ่านอะไรที่เจ็บปวดมามากแล้ว
ส่วนความคืบหน้าการฟอร์ม ครม.ทรัมป์ 1 ล่าสุดทรัมป์กำลังทาบทามนพ.เบน คาร์สัน ซึ่งเคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ พร้อมกับทรัมป์แต่ได้ถอนตัวออกไปให้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการเคหะ และการพัฒนาเมือง โดยศัลยแพทย์ วัยเกษียณผู้นี้ จะใช้เวลาช่วงวันหยุด ในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า พิจารณาข้อเสนอของนายทรัมป์.-สำนักข่าวไทย