เซินเจิ้น 17 ก.ย. – ชาวจีนแห่ซื้อโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรุ่น Mate 30 ของหัวเว่ยที่ใช้ตัวชิปประมวลผลคิรินคุณภาพสูง ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า โทรศัพท์รุ่นดังกล่าวอาจขาดตลาดเนื่องจากถูกสหรัฐกีดกันไม่ให้เข้าถึงชิปที่ใช้เทคโนโลยีของตัวเอง
ผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือในย่านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หัวเฉียงเป่ยในเมืองเซินเจิ้นทางตอนใต้ของจีนกล่าวว่า โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหัวเว่ยทั้งมือหนึ่งและมือสองมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 400-500 หยวน (1,844-2,305 บาท) ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่น Mate 30 ที่หัวเว่ยจับมือกับแบรนด์รถหรูอย่างพอร์ช มีราคาเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 หยวน (64,548 บาท) จากราคาเดิม 10,000 หยวน (46,106 บาท) ในเดือนมกราคม และยังเป็นราคาเดียวกันกับที่จำหน่ายในเถาเป่า ซึ่งเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าชื่อดังของจีน เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐได้ยกระดับมาตรการคุมเข้มเพื่อปิดกั้นไม่ให้หัวเว่ยเข้าถึงชิปประมวลผลที่ใช้เทคโนโลยีสหรัฐ ทั้งยังเร่งให้ไต้หวันเซมิคอนดักเตอร์แมนูแฟกเจอริง (TSMC) บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันระงับการขายชิปให้แก่หัวเว่ยอีกด้วย ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจลูกค้าของหัวเว่ยกล่าวว่า บริษัทหยุดผลิตชิปคิรินเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมาเนื่องจากสหรัฐใช้มาตรการกีดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีสหรัฐในการผลิตชิปของไฮซิลิคอน ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาชิปประมวลผลในเครือหัวเว่ย
หัวเว่ยไม่ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ยังเหลือสมาร์ทโฟนอยู่มากเพียงใด แต่โฆษกของหัวเว่ยกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัทจะยังคงผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้าต่อไป. – สำนักข่าวไทย