fbpx

จีนโต้ข้อกล่าวหาสหรัฐยาวเหยียดเรื่องโควิด-19

ปักกิ่ง 11 พ.ค.- จีนออกบทความยาวเหยียด 30 หน้าแก้ต่างเรื่องที่ถูกสหรัฐกล่าวหาทั้งหมด 24 เรื่องเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาด 


รอยเตอร์ตั้งข้อสังเกตว่า กระทรวงต่างประเทศจีนใช้การแถลงข่าวตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาไปกับการแก้ต่างข้อกล่าวหาของนักการเมืองในสหรัฐ โดยเฉพาะนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเรื่องจีนไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเชื้อไวรัสโคโรนาที่ทำให้เป็นโรคนี้และเรื่องเชื้อมีต้นตอมาจากห้องทดลองปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่นที่พบการระบาดเป็นแห่งแรก ล่าสุดเว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศจีนเผยแพร่บทความยาว 30 หน้า จำนวนคำ 11,000 คำเมื่อค่ำวันเสาร์ย้ำและขยายความการแก้ต่างอีกครั้ง เริ่มด้วยการอ้างถึงอับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีสหรัฐยุคคริสต์ศตวรรษที่ 19 ว่า ลินคอล์นได้กล่าวไว้ว่า คุณอาจจะหลอกคนบางคนได้ตลอดเวลา และหลอกทุกคนได้บางเวลา แต่ไม่สามารถหลอกทุกคนได้ตลอดเวลา พร้อมกับอ้างรายงานข่าวหลายชิ้นที่ว่า ชาวอเมริกันติดเชื้อไวรัสโคโรนานี้ตั้งแต่ยังไม่พบผู้ป่วยรายแรกในเมืองอู่ฮั่นด้วยซ้ำ  หลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดยืนยันว่า เชื้อนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในห้องทดลองและสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นไม่ได้จงใจสร้างขึ้นหรือมีการหลุดรอดออกมาตามที่สหรัฐกล่าวหา 

บทความนี้ได้ลำดับเหตุการณ์เพื่อชี้ให้เห็นว่าจีนได้ให้ข้อมูลแก่ประชาคมโลกอย่างทันการ เปิดเผย และโปร่งใส หวังลบล้างที่ถูกสหรัฐกล่าวหาว่าแจ้งเตือนล่าช้า ขณะที่นิตยสารแดร์ชปีเกลของเยอรมนีอ้างหน่วยข่าวกรองในประเทศว่า การที่จีนพยายามปกปิดข้อมูลในตอนต้นทำให้โลกเสียเวลาไป 4-6 สัปดาห์ ในการรับมือกับโควิด-19 บทความยังได้กล่าวถึงเรื่อง นพ.หลี่ เหวินเลี่ยง จักษุแพทย์วัย 34 ปีที่พยายามเตือนเรื่องการระบาดในเมืองอู่ฮั่นก่อนเสียชีวิตเพราะโรคนี้ในเวลาต่อมา สร้างความเสียใจและไม่พอใจไปทั่วจีนว่า นพ.หลี่ไม่ใช่ผู้เปิดโปงและไม่เคยถูกควบคุมตัวตามข่าวตะวันตก เขาถูกตำรวจตักเตือนเรื่องกระจายข่าวลือเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้