ปักกิ่ง 15 เม.ย.- สำนักข่าวเอเอฟพีเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จาก 14 สถาบันที่คาดว่า เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกของปีนี้จะหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ เพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดนิ่งเนื่องจากโรงงานปิดและคนอยู่บ้าน
ผลสำรวจคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ไตรมาสแรกปีนี้ของจีนจะหดตัวร้อยละ 8.2 จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน เป็นการหดตัวครั้งแรกหลังจากจีนเริ่มรายงานตัวเลขรายไตรมาสในต้นคริสต์ทศวรรษหลังปี 1990 ส่วนจีดีพีทั้งปีน่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.7 ลดลงฮวบฮาบจากร้อยละ 6.1 เมื่อปีก่อน และจะเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ประธานเหมา เจ๋อตุงถึงแก่อสัญกรรมในปี 2519 ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) คาดว่า จีดีพีจีนปีนี้จะขยายตัวเพียงร้อยละ 1.2 เท่านั้น เพราะในขณะที่ธุรกิจจีนเริ่มเดินเครื่องอีกครั้ง ธุรกิจทั่วโลกโดยเฉพาะคู่ค้าใหญ่ของจีนยังคงหยุดชะงักตามมาตรการปิดเมืองเพื่อยับยั้งโควิด-19
นักวิเคราะห์มองว่า แรงงานจีนกลับไปทำงานช้ากว่าที่คาด และยังไม่กลับไปสู่ระดับก่อนการระบาด โดยเฉพาะตามฐานการผลิตใหญ่ ๆ ทั้งที่รัฐบาลกลางส่งเสริมด้วยการผ่อนคลายระเบียบการเดินทางแล้ว ขณะที่ความเสี่ยงจากภายนอกประเทศนอกจากจะจำกัดการฟื้นตัวของภาคการผลิตเพื่อการส่งออกของจีนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสที่สอง ยังจะทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกสะดุด ประกอบกับความกังวลเรื่องผู้ป่วยจากต่างประเทศอาจทำให้ภาคบริการและความต้องการบริโภคในจีนชะลอการฟื้นตัว คาดว่าผลกระทบของโควิด-19 ในระยะสั้นจะรุนแรงกว่าช่วงวิกฤตการเงินโลกปี 2551-2552 ด้วย.-สำนักข่าวไทย