ผลสำรวจพบเลือกตั้งเทศบาลซื้อเสียงสูงถึง 4,000 บาทต่อหัว

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ผลสำรวจพบเลือกตั้งเทศบาลซื้อเสียงสูงถึง 4,000 บาทต่อหัว ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธคนโกง ต้องการผู้สมัครที่มีนโยบายต้านคอร์รัปชัน รับไม่ได้หากผู้สมัครมีประวัติทุจริต เครือข่ายหวังคนรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญต้านคอร์รัปชัน วอน กกต. ตรวจเข้มเลือกตั้ง 11 พ.ค.นี้


มูลนิธิ “เพื่อคนไทย” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกันแถลง “ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี” โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1020 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 16-25 เมษายน 2568 โดยแบ่งเป็นผลสำรวจความเห็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง (อายุ 18 ปีขึ้นไป) จำนวน 711ตัวอย่าง และกลุ่มที่ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง (อายุ 15-17 ปี) จำนวน 309 ตัวอย่าง

โดยในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ประชาชนร้อยละ 66.1 ระบุว่าเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทุจริตของนักการเมืองท้องถิ่น โดยรูปแบบทุจริตคอร์รัปชันในเทศบาลที่เจอบ่อยคือ เรียกรับสินบนแลกออกใบอนุญาตต่างๆ ร้อยละ 18 เรียกเงินทอนจัดซื้อจัดจ้างกับผู้รับเหมา/รับจ้าง ร้อยละ 17.8 และรับธุรกิจสีเทาให้ดำเนินกิจการในท้องถิ่นโดยไม่ถูกตรวจสอบ ร้อยละ 14.7


ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 94.7 อยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในระดับท้องถิ่นหรือในจังหวัด และร้อยละ 68 ระบุว่าถ้าไม่มีนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันจะไม่เลือก ประชาชนร้อยละ 65.9 รับไม่ได้หากสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีมีการทุจริตคอรัปชันบ้าง แต่มีผลงานและทำประโยชน์ให้พื้นที่ และมากถึงร้อยละ 87.3 ระบุว่าการที่ผู้สมัครเคยมีความคุ้นเคยไม่เป็นสาเหตุให้ตัดสินใจเลือก

ประชาชนร้อยละ 47.4 เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงเกิดขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 1,110 บาทต่อคน (ซื้อเสียงสูงสุด 4,000 บาทต่อคน และต่ำสุด 120 บาทต่อคน) โดยประชาชนร้อยละ 86.4 มองว่าการซื้อเสียงไม่สามารถชักจูงให้ประชาชนเลือกผู้สมัครที่ให้เงินได้และ 84.2% ยอมรับไม่ได้หากมีการซื้อเสียงการเลือกตั้ง และร้อยละ 86.1 บอกว่ารับเงินแล้วจะไม่เลือกคนที่จ่ายเงิน

นอกจากนี้ร้อยละ 79 ระบุว่าหากพิสูจน์ได้ว่าผู้สมัครเคยมีประวัติทุจริตจะไม่เลือก รวมถึงบอกให้บุคคลในครอบครัวไม่เลือกเช่นกัน ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่ามีบุคคลในภูมิใจในการเลือกตั้งวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 แล้วทั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล โดยร้อยละ 87.9 บอกว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยร้อยละ 56 เชื่อมั่นน้อยว่าระบบการเลือกตั้งท้องถิ่นปัจจุบันจะได้คนดีมีความสามารถ


โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้แก่ นโยบายการพัฒนาพื้นที่ ความน่าสนใจของตัวผู้สมัคร ประวัติการทำงานที่ผ่านมา ความสามารถในการบริหารงบประมาณ วิสัยทัศน์และการเป็นผู้นำ

ขณะที่ผลสำรวจความเห็นประชาชนกลุ่มอายุ 15-17 ปี เกือบครึ่งไม่พอใจผลงานของนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลปัจจุบัน ส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งมองว่ามีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส โดยร้อยละ 77.3 ระบุว่าหากมีโอกาสเลือกตั้งจะไม่เลือกหากไม่มีนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน และร้อยละ 67.3 รับไม่ได้หากสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีมีการทุจริตคอร์รัปชันบ้าง แม้จะมีผลงานและทำประโยชน์ให้พื้นที่ นอกจากนี้ร้อยละ 66.7 ระบุว่าจะไม่เรียกผู้สมัครหากพิสูจน์ได้ว่าเคยมีประวัติทุจริต

โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือก ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน ความน่าสนใจของตัวผู้สมัครกระแสกลุ่มการเมืองคนรุ่นใหม่ ประวัติการทำงานที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในการสำรวจคาดว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้ง สภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 48 ล้านคน กรณีมาเลือกตั้งร้อยละ 87.9 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 42 ล้านบาท มาเลือกตั้งร้อยละ 66.51 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 32 ล้านบาท และหากมาเลือกตั้งร้อยละ 50 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 24 ล้านบาท

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยทำงานกับภาคีภาคสังคม โดยเริ่มขยายขอบเขตการต่อต้านคอร์รัปชันลงถึงฐานหน่วยเลือกตั้งหน่วยแรก จากผลสำรวจทั้งสองกลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่าประชาชนมองว่าการโกงป็นสิ่งไม่ดี พร้อมจะปฏิเสธคนไม่ดี ถ้าได้ทราบประวัติหรือข้อบกพร่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือก ผลสำรวจบอกซื้อเสียงเฉลี่ย 1,100 บาทต่อหัว แต่ในสนามจริง มีถึง 2,000 บาท จึงขอฝากเรื่องนี้ไปถึง กกต.

สำหรับเยาวชนอายุ 15-17 ปี ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เน้นความโปร่งอันดับ 1 ขณะที่ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ความสำคัญเรื่องนี้ลำดับท้ายๆ ทำให้ภาคีเครือข่ายเห็นร่วมกันว่ามีความหวังกับคนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเห็นชัดเจนว่าประชาชนปฏิเสธผู้นำองค์กรที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่สุจริตและพร้อมจะร่วมมือทุกภาคส่วนในการกำจัดคอร์รัปชัน และในระดับท้องถิ่นยังมีการซื้อเสียง มีการทุจริตและน่าจะมีเงินสะพัดมาก ยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเมืองหลัง เดือนพฤษภาคม ตัวเลขเงินสะพัดน่าจะมากกว่านี้ คาดหวังว่า กกต. น่าจะทำงานเข้มข้นขึ้นเพื่อสกัดการซื้อสียง เพื่อให้ได้คนโปร่งใส ผลสำรวจยังบอกว่าในอนาคตของภาคีภาคสังคมทั้งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ และอีกหลายองค์กร จะขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่มากขึ้น เพราะประชาชนต้องการมีส่วนร่วม เหมือนสุนัขเฝ้าบ้านจะทำให้ภาคประชาชนมีพลัง การสำรวจ การเลือกตั้งระดับเทศบาลจึงสำคัญเพราะเป็นการเลือกตั้งในระดับพื้นฐาน ถ้ามีการทุจริตในการเลือกตั้งระดับนี้ การเลือกตั้งระดับอื่นย่อมจะมีตามมาด้วย

นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิ “เพื่อคนไทย” กล่าวว่า ผลสำรวจชัดเจนว่าประชาชนรับทราบว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันกว้างขวาง และไม่ยอมรับคนโกง มีผลต่อมิติต่างๆ ในชีวิตความเป็นอยู่ จึงไม่พอใจกับผลงานของผู้บริหารเทศบาลในอดีต และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ประชาชนยังอยากมีส่วนร่วมติดตาม ตรวจสอบ งานสำรวจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการชื่อ “1 สิทธิ์พลิกชีวิตมหาศาล” ที่มีภาคสังคมหลายองค์กรทำร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งคราวนี้ เรามีความหวังกับเยาวชนอายุ 15-17 ปี ที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาความเป็นประชาธิปไตยให้เข้มแข็งได้

ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รูปแบบการโกง พฤติกรรมการโกงในภาครัฐและในท้องถิ่น ไม่แตกต่างกัน และมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สำหรับเงินซื้อเสียงในที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับ อบจ. มีการซื้อเสียง 700-800 บาท ต่อหัว แต่ครั้งนี้หน่วยเลือกตั้งเล็กลง จำนวนเงินซื้อเสียงจะมากขึ้น ในระดับ อบต. ที่มีงบลงทุนหรือมีผลประโยชน์สูง หรือแหล่งท้องเที่ยวอัตราการซื้อเสียงจะมีผลประโยชน์มากขึ้น บางจุดพุ่งไป 10,000 กว่าบาท แต่การดำเนินคดีน่าผิดหวัง นำคนผิดมาลงโทษได้น้อยมาก หวังว่าความตื่นตัวของประชาชนจะช่วยกันเฝ้าระวัง บันทึกหลักฐาน แชร์ในโซเขียลมีเดียจะช่วยกระตุ้นให้ กกต. ทำงานได้มากขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]