ผลสำรวจพบเลือกตั้งเทศบาลซื้อเสียงสูงถึง 4,000 บาทต่อหัว

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ผลสำรวจพบเลือกตั้งเทศบาลซื้อเสียงสูงถึง 4,000 บาทต่อหัว ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธคนโกง ต้องการผู้สมัครที่มีนโยบายต้านคอร์รัปชัน รับไม่ได้หากผู้สมัครมีประวัติทุจริต เครือข่ายหวังคนรุ่นใหม่เป็นกำลังสำคัญต้านคอร์รัปชัน วอน กกต. ตรวจเข้มเลือกตั้ง 11 พ.ค.นี้


มูลนิธิ “เพื่อคนไทย” ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกันแถลง “ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี” โดยสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1020 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 16-25 เมษายน 2568 โดยแบ่งเป็นผลสำรวจความเห็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง (อายุ 18 ปีขึ้นไป) จำนวน 711ตัวอย่าง และกลุ่มที่ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง (อายุ 15-17 ปี) จำนวน 309 ตัวอย่าง

โดยในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ประชาชนร้อยละ 66.1 ระบุว่าเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทุจริตของนักการเมืองท้องถิ่น โดยรูปแบบทุจริตคอร์รัปชันในเทศบาลที่เจอบ่อยคือ เรียกรับสินบนแลกออกใบอนุญาตต่างๆ ร้อยละ 18 เรียกเงินทอนจัดซื้อจัดจ้างกับผู้รับเหมา/รับจ้าง ร้อยละ 17.8 และรับธุรกิจสีเทาให้ดำเนินกิจการในท้องถิ่นโดยไม่ถูกตรวจสอบ ร้อยละ 14.7


ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 94.7 อยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในระดับท้องถิ่นหรือในจังหวัด และร้อยละ 68 ระบุว่าถ้าไม่มีนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันจะไม่เลือก ประชาชนร้อยละ 65.9 รับไม่ได้หากสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีมีการทุจริตคอรัปชันบ้าง แต่มีผลงานและทำประโยชน์ให้พื้นที่ และมากถึงร้อยละ 87.3 ระบุว่าการที่ผู้สมัครเคยมีความคุ้นเคยไม่เป็นสาเหตุให้ตัดสินใจเลือก

ประชาชนร้อยละ 47.4 เชื่อว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการซื้อเสียงเกิดขึ้น เฉลี่ยอยู่ที่ 1,110 บาทต่อคน (ซื้อเสียงสูงสุด 4,000 บาทต่อคน และต่ำสุด 120 บาทต่อคน) โดยประชาชนร้อยละ 86.4 มองว่าการซื้อเสียงไม่สามารถชักจูงให้ประชาชนเลือกผู้สมัครที่ให้เงินได้และ 84.2% ยอมรับไม่ได้หากมีการซื้อเสียงการเลือกตั้ง และร้อยละ 86.1 บอกว่ารับเงินแล้วจะไม่เลือกคนที่จ่ายเงิน

นอกจากนี้ร้อยละ 79 ระบุว่าหากพิสูจน์ได้ว่าผู้สมัครเคยมีประวัติทุจริตจะไม่เลือก รวมถึงบอกให้บุคคลในครอบครัวไม่เลือกเช่นกัน ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่ามีบุคคลในภูมิใจในการเลือกตั้งวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 แล้วทั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล โดยร้อยละ 87.9 บอกว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยร้อยละ 56 เชื่อมั่นน้อยว่าระบบการเลือกตั้งท้องถิ่นปัจจุบันจะได้คนดีมีความสามารถ


โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกตั้งในครั้งนี้ ได้แก่ นโยบายการพัฒนาพื้นที่ ความน่าสนใจของตัวผู้สมัคร ประวัติการทำงานที่ผ่านมา ความสามารถในการบริหารงบประมาณ วิสัยทัศน์และการเป็นผู้นำ

ขณะที่ผลสำรวจความเห็นประชาชนกลุ่มอายุ 15-17 ปี เกือบครึ่งไม่พอใจผลงานของนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลปัจจุบัน ส่วนใหญ่มากกว่าครึ่งมองว่ามีการบริหารงานที่ไม่โปร่งใส โดยร้อยละ 77.3 ระบุว่าหากมีโอกาสเลือกตั้งจะไม่เลือกหากไม่มีนโยบายต่อต้านการคอร์รัปชัน และร้อยละ 67.3 รับไม่ได้หากสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีมีการทุจริตคอร์รัปชันบ้าง แม้จะมีผลงานและทำประโยชน์ให้พื้นที่ นอกจากนี้ร้อยละ 66.7 ระบุว่าจะไม่เรียกผู้สมัครหากพิสูจน์ได้ว่าเคยมีประวัติทุจริต

โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือก ได้แก่ ความซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน ความน่าสนใจของตัวผู้สมัครกระแสกลุ่มการเมืองคนรุ่นใหม่ ประวัติการทำงานที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในการสำรวจคาดว่าจะมีเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้ง สภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 48 ล้านคน กรณีมาเลือกตั้งร้อยละ 87.9 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 42 ล้านบาท มาเลือกตั้งร้อยละ 66.51 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 32 ล้านบาท และหากมาเลือกตั้งร้อยละ 50 จะมีเงินสะพัดมากกว่า 24 ล้านบาท

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยทำงานกับภาคีภาคสังคม โดยเริ่มขยายขอบเขตการต่อต้านคอร์รัปชันลงถึงฐานหน่วยเลือกตั้งหน่วยแรก จากผลสำรวจทั้งสองกลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่าประชาชนมองว่าการโกงป็นสิ่งไม่ดี พร้อมจะปฏิเสธคนไม่ดี ถ้าได้ทราบประวัติหรือข้อบกพร่อง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือก ผลสำรวจบอกซื้อเสียงเฉลี่ย 1,100 บาทต่อหัว แต่ในสนามจริง มีถึง 2,000 บาท จึงขอฝากเรื่องนี้ไปถึง กกต.

สำหรับเยาวชนอายุ 15-17 ปี ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เน้นความโปร่งอันดับ 1 ขณะที่ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ความสำคัญเรื่องนี้ลำดับท้ายๆ ทำให้ภาคีเครือข่ายเห็นร่วมกันว่ามีความหวังกับคนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจเห็นชัดเจนว่าประชาชนปฏิเสธผู้นำองค์กรที่ไม่ซื่อสัตย์ไม่สุจริตและพร้อมจะร่วมมือทุกภาคส่วนในการกำจัดคอร์รัปชัน และในระดับท้องถิ่นยังมีการซื้อเสียง มีการทุจริตและน่าจะมีเงินสะพัดมาก ยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการเมืองหลัง เดือนพฤษภาคม ตัวเลขเงินสะพัดน่าจะมากกว่านี้ คาดหวังว่า กกต. น่าจะทำงานเข้มข้นขึ้นเพื่อสกัดการซื้อสียง เพื่อให้ได้คนโปร่งใส ผลสำรวจยังบอกว่าในอนาคตของภาคีภาคสังคมทั้งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ และอีกหลายองค์กร จะขับเคลื่อนงานในระดับพื้นที่มากขึ้น เพราะประชาชนต้องการมีส่วนร่วม เหมือนสุนัขเฝ้าบ้านจะทำให้ภาคประชาชนมีพลัง การสำรวจ การเลือกตั้งระดับเทศบาลจึงสำคัญเพราะเป็นการเลือกตั้งในระดับพื้นฐาน ถ้ามีการทุจริตในการเลือกตั้งระดับนี้ การเลือกตั้งระดับอื่นย่อมจะมีตามมาด้วย

นายวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิ “เพื่อคนไทย” กล่าวว่า ผลสำรวจชัดเจนว่าประชาชนรับทราบว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันกว้างขวาง และไม่ยอมรับคนโกง มีผลต่อมิติต่างๆ ในชีวิตความเป็นอยู่ จึงไม่พอใจกับผลงานของผู้บริหารเทศบาลในอดีต และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้ว ประชาชนยังอยากมีส่วนร่วมติดตาม ตรวจสอบ งานสำรวจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการชื่อ “1 สิทธิ์พลิกชีวิตมหาศาล” ที่มีภาคสังคมหลายองค์กรทำร่วมกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งคราวนี้ เรามีความหวังกับเยาวชนอายุ 15-17 ปี ที่จะเข้ามาร่วมพัฒนาความเป็นประชาธิปไตยให้เข้มแข็งได้

ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รูปแบบการโกง พฤติกรรมการโกงในภาครัฐและในท้องถิ่น ไม่แตกต่างกัน และมีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สำหรับเงินซื้อเสียงในที่ผ่านมาการเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับ อบจ. มีการซื้อเสียง 700-800 บาท ต่อหัว แต่ครั้งนี้หน่วยเลือกตั้งเล็กลง จำนวนเงินซื้อเสียงจะมากขึ้น ในระดับ อบต. ที่มีงบลงทุนหรือมีผลประโยชน์สูง หรือแหล่งท้องเที่ยวอัตราการซื้อเสียงจะมีผลประโยชน์มากขึ้น บางจุดพุ่งไป 10,000 กว่าบาท แต่การดำเนินคดีน่าผิดหวัง นำคนผิดมาลงโทษได้น้อยมาก หวังว่าความตื่นตัวของประชาชนจะช่วยกันเฝ้าระวัง บันทึกหลักฐาน แชร์ในโซเขียลมีเดียจะช่วยกระตุ้นให้ กกต. ทำงานได้มากขึ้น.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

พายุหนองฟ้ายังไม่สิ้นฤทธิ์ หลายพื้นที่ภาคเหนืออ่วม

1 ก.ย. – พายุ “หนองฟ้า” แม้อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ทำให้หลายพื้นที่ทางภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่องนับสัปดาห์ จนเกิดน้ำป่าหลากจากบนดอยสูงหลายจุด โดยเฉพาะภาพน้ำป่าหลากลงมาผ่านน้ำตกผาแก่งสร้อย ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนภูมิพล กลายเป็นภาพที่สวยงามแต่น่ากลัว นอกจากนี้ยังมีน้ำทะลักท่วมภาคเหนือตอนล่าง ทั้งที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และอีกหลายอำเภอของ จ.พิษณุโลก.-สำนักข่าวไทย

เปิดวงจรปิดล่า 4 คนร้ายลอบวางระเบิดตู้ ATM

1 ก.ย. – เปิดภาพวงจรปิดไล่ล่า 4 คนร้าย สวมชุดปิดบังอำพราง พร้อมอาวุธครบมือ ลอบวางระเบิดตู้ ATM ในพื้นที่ จ.ยะลา โดยพยายามปล้นเงินในตู้เซฟ แต่ไม่สามารถนำเงินออกมาได้ กล้องวงจรปิดในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง สาขาบ้านบุ อ.เมืองยะลา จับภาพเมื่อเวลาประมาณ 01.15 น. มี 4 คนร้ายใส่ชุดปิดบังอำพราง สวมหมวกปีกปิดหน้า ถืออาวุธปืน ลอบนำระเบิดแสวงเครื่องมาวางระเบิดตู้ ATM จากนั้นทั้ง 4 คน หลบไปซ่อนตัว ผ่านไปประมาณ 1 นาที เกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.16 น. โดยคนร้าย 2 คน พยายามงัดตู้เซฟเก็บเงิน ส่วนอีก 2 คน ถือปืนประกบ แต่ไม่สามารถงัดตู้เซฟออกมาได้ จึงหลบหนีไปในเวลา 01.18.10 น. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมประสานชุดเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบเมื่อเช้าที่ผ่านมา […]

“ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ประชุมต่อพรุ่งนี้

พรรคประชาชน 1 ก.ย.- “ปชน.” ยังไม่เคาะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ พรุ่งนี้ประชุมต่อ “พริษฐ์” เผยสุดท้าย จบ กก.บห.เหตุต้องรับผิดชอบ ไม่ปล่อยโหวตในวง สส. ยันไม่ใช้อารมณ์มาตัดสิน แต่ไม่ลืมอดีตเพื่อไทยฉีก MOU – ภูมิใจไทย ซัด “พิธา” นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยภายหลังประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส. นับ 90 คน นานเกือบ 4 ชั่วโมงว่า ที่ประชุมมีความเห็นที่หนักหลายหลายคนแสดงความคิดเห็น และมีความหนักใจในการเลือกทางใดทางหนึ่ง ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าเจ้าของประชุมในวันพรุ่งนี้ต่อ เพื่อให้สส. ที่มาในวันนี้และแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม รวมทั้ง สส.ที่ไม่ได้มาร่วมประชุมในวันนี้แสดงความคิดเห็นด้วย ก่อนจะนำความเห็นของสส.มาประกอบกับภาคส่วนอื่น ๆ ซึ่งในการพูดคุยมี 2 ประเด็นที่ชัดเจนคือ ยังยืนยันจุดยืนเดิมว่าสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ คือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ซึ่งพรรคประชาชนได้ออกมาเรียกร้องเรื่องยุบสภามาโดยตลอด ตั้งแต่มีคลิปเสียงหลุดออกมา เพียงแต่ผู้มีอำนาจไม่ตอบสนอง วันนี้ยังยืนยันว่าการยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่โดยรวมเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจยุบสภาจะยืนดำเนินการยุบสภาก็จะสอดคล้องกับจุดยืนของพรรค ซึ่งพรรคยินดีและพร้อมเลือกตั้ง แต่หากรักษาการนายกไม่ยุบสภาและมีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวบรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง ก็ต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อนำไปสู่การยุบสภาและเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว […]

“วันนอร์” ยันสภาพร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่”

กทม.1 ก.ย.- “วันนอร์” ยันสัปดาห์นี้ สภาฯ พร้อมโหวต “นายกฯ คนใหม่” แต่ต้องให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม ชี้ต้องมีรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว เพื่อไม่ให้กระทบงบประมาณและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ว่า สัปดาห์นี้ ได้ออกระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร 3 วัน คือวันที่ 3-5 กันยายน โดยวันพุธที่ 3 กันยายน จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน จะเป็นการพิจารณากระทู้แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีทุกคนพ้นจากตำแหน่ง จึงไม่สามารถตอบกระทู้ถามได้ แต่ยังมีเรื่องเพื่อทราบ ที่จะต้องเชิญหน่วยงานมาชี้แจง ขณะที่ในวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เป็นการพิจารณาวาระพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ค้างอยู่หลายฉบับ ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้เสนอเข้ามาและมีความจำเป็น ต้องเร่งประกาศใช้จะต้องเร่งพิจารณาโดยไม่มีวาระหารือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ส่งผลให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยกระบวนการจากนี้สภาผู้แทนราษฎรจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี มี 2 […]