ลอนดอน 12 ม.ค.- นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษชี้ว่า อังกฤษควรต้องลงทุนด้านยุทโธปกรณ์เพื่อลดการพึ่งพาทางทหารจากสหรัฐ
นายวอลเลซให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ของอังกฤษฉบับวันนี้ ยอมรับอย่างเปิดอกว่า นอนไม่หลับเพราะวิตกว่าสหรัฐที่มีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีจะเดินหน้านโยบายแยกตัวโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น เขากังวลว่าหากวันหนึ่งสหรัฐตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นผู้นำโลก วันนั้นจะเป็นวันเลวร้ายของโลกและอังกฤษ อังกฤษจึงควรเตรียมตัวรับมือกับทุกสถานการณ์ ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นสหรัฐถอนกำลังออกจากซีเรีย ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงเรื่องอิรักว่าองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตควรเข้าไปรับหน้าที่ต่อจากสหรัฐและเพิ่มบทบาทในตะวันออกกลาง การคิดเอาเองว่าอังกฤษเป็นพันธมิตรของสหรัฐเสมอ ไม่สามารถใช้ได้อีกแล้ว รัฐบาลอังกฤษควรต้องวางแผนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงนี้ นายวอลเลซระบุด้วยว่า อังกฤษพึ่งพาการคุ้มกันทางอากาศ ข่าวกรอง การลาดตระเวนและการสอดแนมของสหรัฐมากเกินไป ถึงเวลาที่จะต้องลงทุนด้านยุทโธปกรณ์ของตนเอง
รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษแสดงความเห็นดังกล่าว แม้ว่าอังกฤษเป็นพันธมิตรยาวนานของสหรัฐและชูเรื่องความสัมพันธ์พิเศษเป็นหลักในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ยิ่งในช่วงที่อังกฤษเตรียมตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปหรืออียูหลังวันที่ 31 มกราคม รัฐบาลอังกฤษยิ่งประกาศชัดเจนว่า ความสัมพันธ์กับสหรัฐมีความสำคัญอย่างใหญ่หลวง และให้ความสำคัญกับเรื่องการเจรจาการค้าเป็นนโยบายอันดับต้น ๆ.-สำนักข่าวไทย