กรุงเทพฯ 3 พ.ย.- สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนประกาศยึดมั่นตามพันธกรณีที่มีต่อกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือยูเอ็นเอฟซีซีซี (UNFCCC) และความตกลงปารีสปี 2558
อาเซียนออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการประชุมรัฐภาคียูเอ็นเอฟซีซีซีครั้งที่ 25 (UNFCCC COP25) เมื่อวานนี้ว่า ผู้นำ 10 ชาติสมาชิกอาเซียนขอใช้การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 ย้ำเรื่องการยึดมั่นต่อพันธกรณีที่มีต่อยูเอ็นเอฟซีซีซีและความตกลงปารีส โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักการเรื่องความรับผิดชอบร่วมกันแต่แตกต่างกันและศักยภาพของแต่ละประเทศตามสภาพแวดล้อมระดับประเทศที่แตกต่างกัน อาเซียนจะดำเนินมาตรการแก้ไขการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามพิมพ์เขียวประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียนปี 2568 อย่างสอดคล้องกับผลของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 ของยูเอ็นและนโยบายการพัฒนาระดับประเทศ
แถลงการณ์กล่าวถึงเรื่องป่าไม้ว่า อาเซียนจะส่งเสริมการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน เช่น ปฏิบัติตามมติการประชุมรัฐภาคีเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่า การทำให้ป่าเสื่อมโทรมและส่งเสริมการอนุรักษ์ จะส่งเสริมแหล่งกักเก็บคาร์บอนในประเทศกำลังพัฒนาตามกรอบวอร์ซอปี 2556 จะส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การคุ้มครองและฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาบนบก ริมฝั่ง และทางทะเล
ส่วนเรื่องการใช้พลังงาน อาเซียนจะบรรลุเป้าหมายลดความเข้มข้นของการใช้พลังงานลงให้ได้ร้อยละ 21.9 ของการใช้ในปี 2548 จะเปิดตัวยุทธศาสตร์ภูมิภาคอาเซียนว่าด้วยการขนส่งทางบกที่ยั่งยืน โรดแมปการประหยัดเชื้อเพลิงอาเซียนสำหรับภาคการขนส่งปี 2561-2568 และแนวทางสำหรับการจัดทำดัชนีชี้วัดการขนส่งทางบกที่ยั่งยืนว่าด้วยการประหยัดพลังงานและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอาเซียน
ด้านภัยพิบัติ อาเซียนจะส่งเสริมศักยภาพในการจัดการภัยพิบัติที่เกิดจากสภาพอากาศด้วยกลไกที่มีอยู่ตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการรับมือเหตุฉุกเฉิน จะปฏิบัติตามระยะหรือเฟสสองของแผนปฏิบัติการประกันและจัดหาเงินลดความเสี่ยงภัยพิบัติอาเซียน จะตั้งเงินทุนประกันภัยความเสี่ยงภัยพิบัติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประการสุดท้ายอาเซียนจะส่งเสริมความร่วมมือกับคู่เจรจา หุ้นส่วน และภายนอกเรื่องการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศในอาเซียน.-สำนักข่าวไทย