เบรุต 8 ต.ค.- นักวิเคราะห์และกองกำลังชาวเคิร์ดเตือนว่า หากตุรกีบุกตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียเพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด อาจทำให้กลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ที่ถูกกำราบไปแล้วฟื้นคืนชีพ
กองกำลังประชาธิปไตยซีเรียหรือเอสดีเอฟ (SDF) ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรียแถลงว่า การที่ตุรกีจะโจมตีเอสดีเอฟที่ตุรกีถือว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายและกองกำลังสหรัฐได้ถอนตัวออกจากพรมแดนตุรกีเมื่อวันจันทร์เพื่อเปิดทางให้ตุรกีบุกซีเรียได้ทุกเมื่อตามที่ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกีประกาศนั้น จะทำให้ปฏิบัติการนำโดยเอสดีเอฟที่ประสบความสำเร็จในการปราบไอเอสพลิกกลับเป็นตรงกันข้าม และเปิดช่องให้แกนนำไอเอสออกมาจากที่กบดาน สงครามปราบไอเอสยังไม่จบสิ้น ยังมีสมาชิกไอเอสหลายร้อยกลุ่มกระจัดกระจายซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ในพื้นที่ที่ได้รับการปลดปล่อยจากไอเอสแล้ว
อินเตอร์เนชันนัลไครซิสกรุ๊ปมองว่า เอสดีเอฟมีส่วนได้เสียที่เตือนเรื่องนี้ แต่หากคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่าไอเอสยังคงเป็นภัยและมีโอกาสแพร่กระจาย หากเอสดีเอฟจำเป็นต้องแบ่งทรัพยากรและความสนใจในการเฝ้าระวังไอเอสไปรับมือกับการโจมตีของตุรกี ด้านสถาบันตะวันออกกลางในสหรัฐชี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังให้ของขวัญไอเอสด้วยการเปิดโอกาสให้ฟื้นคืนชีพ
เอสดีเอฟซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนำโดยสหรัฐประกาศยึดเมืองบากูซ ฟอว์กานี ฐานที่มั่นสุดท้ายของไอเอสในซีเรียได้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และเตือนว่าศูนย์ควบคุมตัวสมาชิกไอเอสไม่มีความแน่นหนา หากมาตรการรักษาความปลอดภัยหละหลวม สมาชิกไอเอสก็พร้อมหนีออกมาได้ เช่นเดียวกับค่ายผู้พลัดถิ่นอัลฮอล ทางตอนเหนือของซีเรียที่มีครอบครัวนักรบไอเอสอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า 3,000 คน คนเหล่านี้อันตรายไม่ต่างจากนักรบไอเอส ก่อเหตุเพื่อหาทางหลบหนีอยู่ทุกวัน อาบู บาการ์ อัล แบกดาดี ผู้นำไอเอสชักชวนสาวกให้หาทางช่วยนักรบและครอบครัวที่ถูกกักตัวในซีเรียและอิรัก เขาประกาศจะแก้แค้นในเทปเสียงที่มีการเผยแพร่เมื่อกลางเดือนก่อน.- สำนักข่าวไทย