ฮ่องกง 3 ต.ค.- สื่อฮ่องกงรายงานว่า ทางการเตรียมใช้กฎหมายฉุกเฉินห้ามประชาชนสวมหน้ากากที่ผู้ประท้วงมักนำมาใช้อำพรางใบหน้าและป้องกันแก๊สน้ำตา ด้านรอยเตอร์รายงานว่า ทางการได้ผ่อนปรนระเบียบการใช้กำลังของตำรวจตั้งแต่สิ้นเดือนก่อน
สถานีโทรทัศน์ทีวีบีและสถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวีรายงานว่า ทางการตัดสินใจในการประชุมพิเศษคณะผู้บริหารฮ่องกงว่า จะใช้กฎหมายฉุกเฉินสมัยยังเป็นอาณานิคมอังกฤษทั้งที่ไม่ได้ใช้มาร่วมครึ่งศตวรรษ ห้ามประชาชนสวมหน้ากาก และให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่ตำรวจ สมาชิกสภานิติบัญญัติสนับสนุนจีนคนหนึ่งแถลงข่าวว่า กฎหมายนี้ไม่ได้มุ่งเป้าหมายที่ผู้ประท้วงอย่างสันติ แต่มุ่งที่ผู้ก่อจลาจลที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง ขณะที่สมาชิกสภาฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยเกรงว่า การนำกฎหมายห้ามสวมหน้ากากมาใช้ในสถานการณ์ขณะนี้จะยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจและจะทำให้ถูกตอบโต้ด้วยความรุนแรงมากขึ้น ไม่ต่างจากการราดน้ำมันเข้ากองไฟ
ขณะเดียวกันรอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารที่ได้เห็นว่า ตำรวจฮ่องกงได้แก้ไขแนวทางบางประการในการพิจารณาใช้กำลัง และลบประโยคที่ว่าตำรวจจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ก่อนเกิดการประท้วงรุนแรงในวันชาติจีน 1 ตุลาคมที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาประมาณ 1,400 นัด ยิงกระสุนยาง 900 นัด ยิงกระสุนจริง 6 นัด ผู้ประท้วงขว้างระเบิดเพลิง ใช้ไม้และแท่งเหล็กเป็นอาวุธ มีผู้บาดเจ็บกว่า 100 คน หนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนวัย 18 ปี ที่ถูกตำรวจใช้กระสุนจริงยิงเข้าที่หน้าอกเป็นรายแรกตั้งแต่การประท้วงใหญ่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน รอยเตอร์ได้สอบถามตำรวจเรื่องการแก้ไขแนวทางการใช้กำลัง แต่ตำรวจไม่ตอบโดยอ้างว่าการเปิดเผยรายละเอียดปฏิบัติการของตำรวจอาจกระทบต่อปฏิบัติการปกติและประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรม.-สำนักข่าวไทย