ปุตราจายา 19 มิ.ย.- ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียเตือนให้ระวังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่อาจเกิดขึ้นเพราะชาวมาเลเซียที่กลับจากการไปรบร่วมกับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส ในซีเรียและอิรัก ผิดหวังที่การตั้งการปกครองแบบกาหลิบของไอเอสล้มเหลว จึงอาจต้องการสานต่อในมาเลเซีย
พล.อ.อับดุล ฮามิด บาดอร์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ของฮ่องกงว่า มีกระแสวิตกมากว่าชาวมาเลเซียที่กลับมาเหล่านี้เป็นนักรบที่ผิดหวังเพราะไม่สามารถทำตามอุดมการณ์และไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกฝึกมา จึงอาจต้องการปลดปล่อยความผิดหวังที่บ้านเกิด พล.อ.อับดุล ฮามิด กล่าวว่า ปัจจุบันมีชาวมาเลเซียกว่ายี่สิบคนหลบซ่อนตัวอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยทางเหนือของซีเรียหลังจากไอเอสล่มสลายเมื่อเดือนมีนาคม ดังนั้นเมื่อคนเหล่านี้กลับประเทศ ทางการจะดำเนินการอย่างรอบคอบให้ครอบคลุมทุกความเป็นไปได้ อ้างอิงจากประสบการณ์ของหลายประเทศที่ใช้รับมือกับพลเมืองที่กลับจากการร่วมรบกับไอเอสมาแล้ว
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาเลเซียกล่าวถึงสื่อสังคมออนไลน์ด้วยว่า การที่บริษัทเหล่านี้ไม่รีบหาทางระบุตัวและลบเนื้อหาสุดโต่งอย่างทันที ทำให้เยาวชนที่ถูกชักจูงง่ายเข้าถึงเนื้อหาอันตรายได้โดยง่ายและถูกล้างสมอง เพราะหลังจากที่ได้อ่านข้อเขียนทางศาสนาสุดโต่งที่เลยเถิดจากคัมภีร์อัลกุรอ่าน เยาวชนเหล่านี้จะตั้งกลุ่มสนทนาส่วนตัวแล้วต่อเนื่องไปถึงการตั้งกลุ่มตั้งแก๊ง ส่วนใหญ่อายุ 20-23 ปี
ข้อมูลของตำรวจมาเลเซียเผยว่า ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา มีชาวมาเลเซียเดินทางไปเข้าร่วมกับไอเอสในซีเรียและอิรักทั้งหมด 102 คน ในจำนวนนี้ 40 คนถูกสังหารในการสู้รบ 9 คนเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่ปี 2556 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ตำรวจทลายแผนก่อการร้ายได้แล้ว 24 ครั้ง จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธได้ 457 คน ในจำนวนนี้ 13 คนมาจาก 21 ประเทศ โดยมาจากฟิลิปปินส์มากที่สุด 47 คน.-สำนักข่าวไทย