กลาสโกว์ 5 พ.ย.- นักวิจัยเผยต่อที่ประชุมการแพทย์ในเมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์วานนี้ว่า ผู้ชายในประเทศร่ำรวยเสียชีวิตเพราะมะเร็งผิวหนังมากขึ้นนับตั้งแต่ปี 2528 เป็นต้นมา
ข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุว่า มะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมากว่าร้อยละ 90 เกิดจากเซลล์ผิวหนังถูกแสงแดดหรือแหล่งรังสีอัลตราไวโอเล็ตอื่น ๆ เช่น เตียงอาบแดด ทำลายจนเสียหาย ผลการตรวจสอบใน 18 ประเทศพบว่า 8 ประเทศมีอัตราผู้ชายเสียชีวิตเพราะมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ไอร์แลนด์และโครเอเชียเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า สเปนและอังกฤษเพิ่มขึ้นร้อยละ 70 เนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 60 ฝรั่งเศสและเบลเยียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ส่วนสหรัฐซึ่งไม่อยู่ในการศึกษาเพิ่มขึ้นร้อยละ 25
แพทย์กลุ่มรอยัลฟรีลอนดอนยกตัวอย่างออสเตรเลียว่า เป็นประเทศที่มีอัตราผู้ชายเสียชีวิตเพราะมะเร็งผิวหนังราว 6 ใน 100,000 คน ช่วงปี 2556-2558 สูงที่สุดในโลกรองจากฟินแลนด์ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อ 3 ทศวรรษก่อนเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 10 เพราะรัฐบาลเริ่มรณรงค์เรื่องการอาบแดดอย่างชาญฉลาดมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษหลังปี 1970
ตัวเลขสตรีเสียชีวิตเพราะมะเร็งผิวหนังในออสเตรเลียลดลงร้อยละ 10 เทียบกับ 3 ทศวรรษก่อนที่เสียชีวิตราวครึ่งหนึ่งของผู้ชาย แต่ยุโรปหลายประเทศกลับเพิ่มขึ้นมาก เช่น สเปนเพิ่มขึ้นร้อยละ 74 เบลเยียมเพิ่มขึ้นร้อยละ 67 เนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 58 ไอร์แลนด์เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเพราะมะเร็งผิวหนังชนิดเมลาโนมาต่ำที่สุดในโลกคือ ญี่ปุ่น อยู่ที่ 0.24 และ 0.18 ต่อ 100,000 คน สำหรับชายและหญิงตามลำดับ นักวิจัยกำลังหาว่า ปัจจัยทางชีวภาพหรือพันธุกรรมมีผลต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าเกี่ยวข้อง.- สำนักข่าวไทย