fbpx

รางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ 2566

สตอกโฮล์ม 10 ต.ค. ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่อธิบายเรื่องช่องว่างและความไม่เท่าเทียมทางเพศในตลาดแรงงานคว้ารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2566 ราชบัณฑิตยสภาแห่งสวีเดนประกาศชื่อผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมว่า ได้แก่เคลาเดีย โกลดิน วัย 77 ปี ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด จากผลงานการค้นคว้าวิจัยที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับช่องว่างและความไม่เท่าเทียมทางเพศในตลาดแรงงาน ผลงานการวิจัยของโกลดินที่ศึกษาการทำงานของผู้หญิงในตลาดแรงงานทั่วโลกตลอด 200 ปีที่ผ่านมาพบว่า ค่าจ้างในการทำงานของผู้หญิงไม่เคยทัดเทียมเทียบเท่ากับผู้ชาย และความแตกต่างเรื่องค่าจ้างยังคงเกิดขึ้นต่อไป แม้ผู้หญิงจะมีการศึกษาสูงกว่าผู้ชาย คณะกรรมการพิจารณารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ระบุว่า แม้งานวิจัยของโกลดินไม่ได้นำเสนอวิธีแก้ไขปัญหา แต่ก็ทำให้ผู้จัดทำและกำหนดนโยบายนำข้อมูลไปปรับใช้และรับมือความไม่เท่าเทียมดังกล่าว งานวิจัยของเธอยังช่วยให้เกิดความเข้าใจเรื่องบทบาทของผู้หญิงในตลาดแรงงานที่จะเป็นประโยชน์ต่อการวางนโยบายเพื่อช่วยให้ผู้หญิงได้รับโอกาสและความก้าวหน้าในตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น โกลดินเป็นผู้หญิงคนที่ 3 ที่คว้ารางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ เธอจะได้รับเงินรางวัล 10 ล้านโครนสวีเดน (ราว 34 ล้านบาท) และเตรียมเข้ารับรางวัลในพิธีที่จะจัดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคมที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน.-สำนักข่าวไทย

ยูเอ็นระบุอคติต่อสตรีในรอบทศวรรษยังคงอยู่เหมือนเดิม

รายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่ในวันนี้ว่า การติดตามข้อมูลเรื่องอติที่มีต่อสตรีปรากฎว่า ไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ความรู้สึกอติฝังรากลึกในสังคมแม้ว่าจะมีความพยายามรณรงค์ในเรื่องการปกป้องสิทธิของสตรี อย่างเช่น “มีทู” (MeToo) ก็ตาม

ศึกษาพบ “เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล” เชื่อมโยงอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม

ปักกิ่ง, 2 ก.พ. (ซินหัว) — ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชิงหัวของจีน ค้นพบความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงกับอาการผมร่วงในหมู่ชายหนุ่ม คณะนักวิจัยดำเนินการวิเคราะห์ผลการสำรวจผู้ชายชาวจีน 1,028 คน ที่มีอายุเฉลี่ย 27.8 ปี ซึ่งพบว่าราวร้อยละ 57.6 ของผู้เข้าร่วมสำรวจ เผชิญอาการผมร่วงแบบผู้ชาย (MPHL) อาการผมร่วงแบบผู้ชายเป็นรูปแบบผมร่วงที่พบได้บ่อยที่สุดในหมู่ผู้ชาย หรือครองสัดส่วนราวร้อยละ 95 ของอาการผมร่วงทั้งหมดที่ผู้ชายเผชิญ โดยอาการผมร่วงส่งผลให้ผมบางและ/หรือหลุดร่วงบริเวณด้านหน้าหรือด้านบนของหนังศีรษะ และเส้นผมมีแนวโน้มที่จะมีขนาดเล็กลงในบริเวณเหล่านี้ การศึกษาครั้งนี้ครอบคลุมเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหลายประเภท ได้แก่ น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่และเครื่องดื่มชูกำลัง นมใส่น้ำตาล นมถั่ว ชาใส่น้ำตาลและเครื่องดื่มชา และกาแฟ กลุ่มผู้เข้าสำรวจร้อยละ 44.6 กล่าวว่าพวกเขาดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 7 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยคณะนักวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงขึ้นจะมีความเสี่ยงเผชิญอาการผมร่วงแบบผู้ชายมากขึ้นตามไปด้วย ขณะระดับการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในกลุ่มผู้ที่มีอาการดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 4,293 มิลลิลิตรต่อสัปดาห์ สูงกว่าระดับของกลุ่มปกติ ซึ่งอยู่ที่เพียง 2,513 มิลลิลิตร คณะนักวิจัยกล่าวว่าปริมาณน้ำตาลที่สูงขึ้นสามารถนำไปสู่ความเข้มข้นของกลูโคสในเลือดที่สูงขึ้น ส่งผลให้วิถีการเปลี่ยนน้ำตาลกลูโคสเป็นน้ำตาลฟรักโทส หรือที่เรียกว่าวิถีโพลีออล (polyol pathway) ทำงานมากเกินจำเป็น ซึ่งอาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้ โดยการศึกษาชี้ว่าอาการผมร่วงบ่งบอกถึง “วิถีโพลีออลที่ทำงานมากเกินไป” […]

ปีที่แล้วญี่ปุ่นฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น

โตเกียว 20 ม.ค.- ข้อมูลเบื้องต้นของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ปี 2565 ที่ผ่านมามีคนฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นจากปี 2564 เนื่องจากมีผู้ชายฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้นที่รวบรวมโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลสุดท้ายในเดือนมีนาคมว่า ปี 2565 ญี่ปุ่นมีคนฆ่าตัวตายทั้งหมด 21,584 คน เพิ่มขึ้น 577 คนจากปี 2564 ในจำนวนนี้เป็นผู้ชาย 14,543 คน เพิ่มขึ้น 604 คน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขชี้ว่า ชายวัย 40-60 ปีเศษ ชายวัยเกษียณ และคนว่างงานเป็นกลุ่มที่ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การฆ่าตัวตายของคนมีชื่อเสียงก็อาจมีส่วนด้วยเช่นกัน ส่วนสตรีฆ่าตัวตาย 7,041 คน ลดลง 27 คน เยาวชนตั้งแต่วัยประถมศึกษาไปจนถึงวัยมัธยมศึกษาตอนปลายฆ่าตัวตาย 441 คน ลดลง 3 คน ญี่ปุ่นมีคนฆ่าตัวตายลดลงอย่างต่อเนื่อง 10 ปีติดต่อกันจนถึงปี 2562 ที่มีคนฆ่าตัวตาย 20,169 […]

เตือนกระแสนิยมปลูกถ่ายผมในอินเดีย

ผู้ชายอินเดียกำลังเกิดกระแสนิยมปลูกถ่ายผมเพื่อให้ดูดี แต่บางครั้งเกิดผลร้ายถึงชีวิต เนื่องจากไม่มีการกำกับดูแลผู้ให้บริการปลูกถ่ายผมอย่างเคร่งครัด

ผลวิจัยชี้ผู้ชายมีแนวโน้มอายุยืนกว่าผู้หญิง

โคเปนเฮเกน 3 ส.ค. – ผลวิจัยของเดนมาร์ก พบว่า ผู้ชายที่แต่งงานและจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยมีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้หญิง ซึ่งถือเป็นผลการศึกษาที่ทลายความเชื่อที่มีมายาวนานว่า ผู้หญิงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชาย ผลวิจัยของเดนมาร์ก ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบริติช เมดิคัล เจอร์นัล (British Medical Journal) ในวันนี้ พบว่า ผู้ชายที่แต่งงานแล้วร้อยละ 39 มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้หญิง สูงกว่าผู้ชายโสดที่ร้อยละ 37 ส่วนผู้ชายที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยร้อยละ 43 มีแนวโน้มที่จะมีอายุยืนกว่าผู้หญิง สูงกว่าผู้ชายที่จบการศึกษาระดับมัธยมที่ร้อยละ 39 ทั้งยังระบุว่า มีผู้ชายร้อยละ 25-50 ที่มีอายุยืนยาวกว่าผู้หญิง และผู้หญิงทุกคนไม่ได้มีอายุยืนกว่าผู้ชาย แม้ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอายุยืนกว่าผู้ชาย แต่ผู้หญิงส่วนน้อยที่มีอายุสั้นกว่าผู้ชายก็มีอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ผลวิจัยดังกล่าวยังระบุว่า ความเชื่อที่ว่าผู้หญิงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ชายนั้นเกิดจากการสรุปโดยใช้อายุขัยโดยเฉลี่ยมากกว่าข้อมูลที่เป็นอายุขัยจริง จนทำให้เกิดการตีความผิดว่า ผู้ชายมีอายุสั้นกว่าผู้หญิง ทั้งนี้ คณะนักวิจัยของเดนมาร์กได้รวบรวมและศึกษาข้อมูลประชากรและอัตราการเสียชีวิตของประชากร 199 คนจากทุกทวีปในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

ผลวิจัยชี้ผู้ป่วยฝีดาษลิง 95% ติดเชื้อผ่านกิจกรรมทางเพศ

ลอนดอน 22 ก.ค. – ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยควีน แมรี แห่งลอนดอน (Queen Mary University of London) ของอังกฤษ ระบุว่า ผู้ป่วยโรคไข้ฝีดาษวานรร้อยละ 95 ติดเชื้อผ่านกิจกรรมทางเพศในกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย คณะนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยควีน แมรี แห่งลอนดอน ได้เผยแพร่ผลวิจัย ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (The New England Journal of Medicine) เมื่อวันพฤหัสบดี จากการศึกษาตัวอย่างกลุ่มผู้ป่วยโรคฝีดาษวานร 528 คนใน 16 ประเทศระหว่างวันที่ 27 เมษายน-24 มิถุนายนที่ผ่านมา ผลวิจัยดังกล่าวชี้ว่า การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรส่วนใหญ่ติดต่อผ่านทางกิจกรรมทางเพศในกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าโรคนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เนื่องจากสามารถติดต่อผ่านทางการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยได้เช่นกัน ทั้งยังระบุว่า ในภาพรวม พบผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรร้อยละ 98 เป็นผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย มีร้อยละ 41 เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี และมีอายุเฉลี่ย 38 ปี กลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้เปลี่ยนคู่นอนโดยเฉลี่ย 5 คนในรอบ […]

อนามัยโลกเผยผู้ป่วยฝีดาษวานรเป็นชายอายุเฉลี่ย 37 ปี

เจนีวา 8 ก.ค. – องค์การอนามัยโลก เผยแพร่รายงานสถานการณ์ระบาดของโรคฝีดาษวานรเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้ป่วยโรคฝีดาษวานรส่วนใหญ่เป็นผู้ชายที่มีอายุเฉลี่ย 37 ปี และมีผู้ป่วยร้อยละ 60 เป็นกลุ่มผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย องค์การอนามัยโลก ระบุในรายงานสถานการณ์ระบาดของโรคฝีดาษวานรว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 4 กรกฎาคม พบผู้ป่วยฝีดาษวานร 6,027 คน และมีผู้เสียชีวิต 3 คน ใน 59 ประเทศทั่วโลก ยอดผู้ป่วยฝีดาษวานรพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 77 นับตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน และในช่วงนั้นก็พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 2 คน ในภูมิภาคแอฟริกากลาง ทั้งนี้ มี 10 ประเทศที่ไม่พบผู้ป่วยฝีดาษวานรเพิ่มขึ้นในรอบ 21 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัวสูงสุดของโรคฝีดาษวานร องค์การอนามัยโลกยังระบุว่า พบผู้ป่วยฝีดาษวานร ร้อยละ 82 ในทวีปยุโรป และร้อยละ 15 ในทวีปอเมริกา ประเทศที่พบผู้ป่วยฝีดาษวานรเกิน 1,000 […]

เผยผู้หญิงญี่ปุ่นฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นสองปีติด

โตเกียว 15 มี.ค.-ผู้หญิงญี่ปุ่นฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในปี 2564 และเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่สองต่อจากปี 2563 ขณะที่ภาพรวมตัวเลขผู้ฆ่าตัวตายในปี 2564 มีจำนวนลดลง และมีผู้ชายญี่ปุ่นฆ่าตัวตายลดลงเช่นกัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นมีตัวเลขผู้ฆ่าตัวตายทั้งหมด 21,007 รายในปี 2564 ลดลง 74 รายจากปี 2563 แต่มีผู้หญิงฆ่าตัวตาย 7,068 รายในปี 2564 เพิ่มขึ้น 42 รายจากปี 2563 และปี 2562 ส่วนผู้ชายญี่ปุ่นที่ฆ่าตัวตายมีจำนวน 13,939 ราย ลดลง 116 รายจากปี 2563 อย่างไรก็ดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่นยังไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขผู้ฆ่าตัวตายเปลี่ยนแปลง แต่เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นเคยระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ได้สร้างแรงกดดันและความเครียดต่อผู้หญิงญี่ปุ่นมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปัญหาการตกงานในภาคธุรกิจบริการและร้านค้าปลีกอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคโควิด โดยที่ธุรกิจเหล่านี้เป็นการงานที่ผู้หญิงญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะไปทำมากกว่าผู้ชาย ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเคยมีตัวเลขผู้ฆ่าตัวตายพุ่งสูงถึง 34,427 คนในปี 2546 จนทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกโครงการป้องกันการฆ่าตัวตายที่ทั่วประเทศในปี 2550 ทั้งนี้ ในปี […]

เกิดข้อถกเถียงหลังผู้คว้ารางวัลโนเบลถึงตอนนี้เป็นชายล้วน

โกเธนเบิร์ก 8 ต.ค. – การประกาศผลรางวัลโนเบลประจำปี 2564 ทั้งแปดคนในสาขาการแพทย์ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ชายทั้งหมด จนทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นความหลากหลายในรางวัลสุดยิ่งใหญ่ที่มอบให้งานวิจัยหรือสิ่งที่สร้างประโยชน์ให้แก่มนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ อาร์เดม ปาตาปูเตียน และเดวิด จูเลียส สองนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน คว้ารางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์เมื่อวันจันทร์ ขณะที่จอร์จิโอ ปาริซี ผู้เชี่ยวชาญทฤษฎีสนามควอนตัมจากมหาวิทยาลัยซาเปียนซาแห่งกรุงโรมของอิตาลี ชูคุโระ มานาเบะ นักวิจัยชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น และเคลาส์ ฮาสเซิลมานน์ นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน คว้ารางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ไปครองจากผลงานระบบความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่วนเบนจามิน ลิสต์จากสถาบันมักซ์พลังก์เพื่อการวิจัยถ่านหินของเยอรมนี และเดวิด แม็กมิลแลน นักเคมีชาวอังกฤษจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันของสหรัฐ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมีจากการคิดค้นตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีชนิดใหม่ ด้านอับดุลราซัก กูร์นาห์ นักเขียนนวนิยายเชื้อสายแทนซาเนีย กลายเป็นนักเขียนผิวดำคนที่สองจากพื้นที่ในทวีปแอฟริกาที่อยู่ทางตอนใต้ของทะเลทรายซาฮาร่า ในประวัติศาสตร์โนเบลที่คว้ารางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมต่อจากโทนี มอร์ริสันในปี 2536 แอนน์-มารี มอร์เฮ็ด หัวหน้าสมาคมนักวิชาการหญิงแห่งสวีเดน ให้ความเห็นว่า กูร์นาห์ มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์อย่างน้อยหนึ่งข้อ เนื่องจากเขาเป็นนักเขียนจากแวดวงวัฒนธรรมที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม ซึ่งไม่ใช่ชาวยุโรปที่มีภูมิหลังด้านอาณานิคม แต่เขาก็ไม่ใช่ผู้หญิงอยู่ดี ขณะนี้ยังเหลือการประกาศผลรางวัลโนเบลอีกสองสาขา คือ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพและสาขาเศรษฐศาสตร์ เธอหวังว่าคณะกรรมการโนเบลของนอร์เวย์จะมอบรางวัลเพื่อยกย่องผู้หญิงบ้าง ทั้งนี้ สเวียตลานา […]

โพลชี้หญิงอเมริกันกังวลวัคซีนโควิดมากกว่าชาย

นิวยอร์ก 11 ธ.ค. – ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันของรอยเตอร์/อิปซอสชี้ว่า ผู้หญิงชาวอเมริกันรู้สึกวิตกกังวลมากกว่าผู้ชายเรื่องการรีบเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกันในช่วงวันที่ 2 – 8 ธันวาคมที่ผ่านมาพบว่า ผู้หญิงอเมริกันร้อยละ 35 ระบุว่า ไม่สนใจเท่าใดหรือไม่สนใจเลยที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 9 จากผลสำรวจครั้งก่อนในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่วัคซีนอยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่ผู้หญิงร้อยละ 55 ระบุว่า สนใจมากหรือค่อนข้างสนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ลดลงร้อยละ 6 จากครั้งก่อน อย่างไรก็ดี ผู้ชายอเมริกันร้อยละ 68 บอกว่า สนใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งไม่ต่างไปจากผลสำรวจครั้งที่แล้ว ผลสำรวจเดือนนี้พบว่า ในภาพรวมแล้วชาวอเมริกันที่ยินดีฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีร้อยละ 61 ลดลงร้อยละ 4 จากผลสำรวจเดือนพฤษภาคม และพบว่า ผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานฉีดวัคซีนลดลงจากร้อยละ 62 เหลือร้อยละ 53 ผู้อำนวยการศาสตร์การดำเนินการและพฤติกรรมของคณะสาธารณสุขจอห์นส์ฮอปกินส์บลูมเบิร์ก มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ของสหรัฐกล่าวว่า การโน้มน้าวผู้หญิงให้ยอมรับวัคซีนมีความสำคัญต่อการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากผู้ที่เป็นแม่มักเป็นคนที่จัดการนัดพบแพทย์และคอยติดตามการฉีดวัคซีนต่อเนื่อง ผู้หญิงมีความระมัดระวังสูง และชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม การทำให้พวกเธอเชื่อมั่นว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไม่ได้ใช้ขั้นตอนลัดในกระบวนการอนุมัติจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง. -สำนักข่าวไทย

พ่ออินโดนีเซียชี้ลูกสมควรติดคุกขังลืมที่ข่มขืนผู้ชายเกือบ 200 คน

บิดาของนักศึกษาปริญญาเอกชาวอินโดนีเซียที่ถูกตราหน้าว่าเป็นนักข่มขืนตัวยงที่สุดในอังกฤษ ยอมว่า การที่ลูกชายถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตถือว่าสมควรกับความผิด

1 2
...