วอชิงตัน 2 ส.ค.- นายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้เก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.63 ล้านล้านบาท) แล้ว จากเดิมที่เสนอให้เก็บร้อยละ 10 เพราะจีนไม่ทำตามความต้องการของสหรัฐ อีกทั้งยังเก็บภาษีตอบโต้
นายไลท์ไธเซอร์แถลงว่า การเพิ่มอัตราภาษีกับสินค้าจีนทำให้รัฐบาลมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการกระตุ้นให้จีนแก้ไขนโยบายและการกระทำที่เป็นอันตรายแล้วหันไปดำเนินนโยบายที่จะนำไปสู่การตลาดที่เป็นธรรมและความมั่งคั่งให้ชาวอเมริกัน ภาษีนี้จะใช้กับสินค้าจีนที่สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) เปิดเผยรายการไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมว่าอาจจะถูกเก็บภาษีร้อยละ 10 หลังจากจีนเก็บภาษีตอบโต้สหรัฐที่เก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ยูเอสทีอาร์จะเปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นเรื่องภาษีครั้งใหม่ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม-5 กันยายน
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐที่ขอสงวนนามกล่าวว่า รัฐบาลยังคงพร้อมเจรจากับจีน แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาอย่างเป็นทางการเรื่องที่สหรัฐต้องการให้จีนยกเครื่องนโยบายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการอุดหนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้านนักวิชาการในสหรัฐมองว่า การเก็บภาษีครั้งใหม่จะทำให้สินค้าจีนหมดโอกาสเข้าตลาดสหรัฐ และสหรัฐจะต้องหันไปหาสินค้าจากประเทศอื่น แต่ยุทธศาสตร์การกดดันจีนของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้จะไม่ได้ผลหากสหรัฐยังไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทกับพันธมิตรทางการค้าอย่างสหภาพยุโรป เม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่หอการค้าเตือนว่า เป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเพราะทุกครั้งที่สหรัฐเก็บภาษีจีน จีนก็จะตอบโต้กลับ ยิ่งส่งผลเสียต่อธุรกิจ คนทำงาน เกษตรกรและผู้บริโภคชาวอเมริกัน.-สำนักข่าวไทย