ไทเป 3 ก.ค.- เอชทีซี ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของไต้หวันที่เคยเป็นดาวเด่นในตลาดที่มีการแข่งขันสูงประกาศจะเลิกจ้างพนักงาน 1,500 คน หรือราว 1 ใน 5 ของพนักงานทั่วโลก เป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 ปี เพราะขาดทุนหนัก
เอชทีซีชี้แจงว่า จะเลิกจ้างภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ เป็นมาตรการเด็ดขาดในการปรับกำลังคนทั่วทั้งบริษัทเพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้ยืดหยุ่นมากขึ้น การประกาศเลิกจ้างมีขึ้นทั้งที่เอชทีซีบรรลุข้อตกลงกับกูเกิลไปเมื่อเดือนมกราคม ช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากขาดทุนสุทธิถึง 16,910 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 18,365 ล้านบาท) ในปีที่ผ่านมา และขาดทุนต่อหุ้นถึง 20.58 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 22.35 บาท) หนักที่สุดตั้งแต่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันเมื่อเดือนมีนาคม 2545 เฉพาะไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนขาดทุนถึง 9,800 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 10,640 ล้านบาท) เป็นการขาดทุนรายไตรมาสมากที่สุดของบริษัท
นักวิเคราะห์มองว่า ข้อตกลงมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,505 ล้านบาท) ที่กูเกิลรับโอนพนักงานวิจัยและพัฒนาของเอชทีซีไป 2,000 คน สะท้อนว่ากูเกิลต้องการเดินตามรอยความสำเร็จของไอโฟนที่ควบคุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนราคาแพง ขณะที่เอชทีซีได้แค่ประโยชน์ระยะสั้นคือ มีเงินทุนเพิ่มขึ้น มีค่าใช้จ่ายลดลง ได้กำไรรายไตรมาสเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ไม่สามารถพลิกอนาคตบริษัทให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนเดิมได้ เอชทีซีเคยเลิกจ้างไปแล้วกว่า 2,000 คนเมื่อปี 2558 หลังจากขาดทุนรายไตรมาสมากที่สุดในเวลานั้นถึง 8,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 8,685 ล้านบาท).- สำนักข่าวไทย