กัวลาลัมเปอร์ 21 พ.ค.- ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผยว่า ประเทศกำลังแบกรับภาระหนี้กว่า 1 ล้านล้านริงกิต (กว่า 8 ล้านล้านบาท) และโทษว่าเป็นเพราะรัฐบาลชุดก่อนของนายนาจิบ ราซัค
ดร.มหาเธร์กล่าวกับคณะเจ้าหน้าที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งหลังชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมว่า ฐานะการเงินของประเทศถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดจนประเทศกำลังมีปัญหาในการชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นไปแตะ 1 ล้านล้านริงกิต มาเลเซียไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้มาก่อน เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยมีหนี้สูงเกิน 300,000 ล้านริงกิต (ราว 2.43 ล้านล้านบาท)
ดร.มหาเธร์ประกาศตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ารับตำแหน่งว่า จะลดภาษีสินค้าและบริการ (GST) ร้อยละ 6 ที่ใช้มาตั้งแต่ 1 เมษายน 2558 ให้เหลือร้อยละ 0 แล้วจะแทนที่ด้วยภาษีขายละบริการ (SST) ขณะเดียวกันจะนำมาตรการอุดหนุนราคาเชื้อเพลิงกลับมาใช้อีกครั้งตามที่ได้หาเสียงไว้ว่าจะลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ขณะที่บริษัทจัดอันดับเครดิตมูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสติงว่า หากใช้นโยบายเหล่านี้โดยไม่มีมาตรการชดเชยใด ๆ ยอดขาดดุลการคลังของมาเลเซียจะยิ่งมากขึ้นและจะไม่เป็นผลดีต่ออันดับเครดิตของมาเลเซีย
นายนาจิบเคยหาเสียงโจมตีนโยบายเศรษฐกิจของ ดร.มหาเธร์ว่า จะทำให้ประเทศมีหนี้กว่า 1 ล้านล้านริงกิต ขณะที่รัฐบาลของเขาในขณะนั้นเตรียมเก็บภาษี GST ให้ได้ 43,800 ล้านริงกิต (ราว 354,950 ล้านบาท) ในปีนี้ คิดเป็นร้อยละ 18 ของรายได้รัฐบาลทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย