อนาคตมาเลเซีย-ผลกระทบ หลัง “มหาเธร์” ชนะเลือกตั้ง

มาเลเซีย 10 พ.ค. – อนาคตของมาเลเซียเพื่อนบ้านของไทย ยังคงตกอยู่ในความไม่แน่นอน หลัง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด สร้างประวัติศาสตร์หวนกลับสู่วงการเมืองมาเลเซียได้อีกครั้งในวัย 92 ปี โดยยังมีหลายคำถามที่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน เช่น การเปลี่ยนถ่ายอำนาจการปกครองประเทศจะดำเนินไปอย่างราบรื่นหรือไม่ รวมถึงแผนการของมหาเธร์ที่เตรียมขอพระราชทานอภัยโทษให้นายอันวาร์ อิบราฮิม เพื่อปูทางให้เขากลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีภายในเวลา 2 ปี จะมีอุปสรรคใดขัดขวางหรือไม่


ชัยชนะของ ดร.มหาเธร์ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แทบจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด นักวิเคราะห์เรียกมันว่า เป็นคลื่นสึนามิของชาวมาเลเซีย โดยกลุ่มคนหลากเชื้อชาติในมาเลเซียต่างรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว เพื่อโค่นรัฐบาลนายนาจิบ จากนี้ไปการเมืองมาเลเซียจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนเกิดแผ่นดินไหว ขณะที่โลกโซเชียลต่างแสดงความเห็นต่าง ๆ นานา บางคนบอกว่าไม่อยากเชื่อว่า มหาเธร์จะโค่นอำนาจนายนาจิบได้สำเร็จ บางคนก็บอกว่าพวกเขาหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปีติ 

มหาเธร์เคยประกาศก่อนเลือกตั้งว่า หากชนะเลือกตั้ง และจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เขาจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนการทุจริตเงินกองทุน 1MDB อย่างจริงจัง โดยกองทุนดังกล่าวนายนาจิบตั้งขึ้นเพื่อนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อนำเงินกลับมาพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซีย แต่ไปๆ มาๆ เงินกลับถูกโอนไปเข้ากระเป๋านายนาจิบ ถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มหาเธร์ยังประกาศ จะยกเลิกการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มที่นายนาจิบประกาศใช้จนทำให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพงในมาเลเซีย ที่สร้างความไม่พอใจให้ชาวมาเลเซียอย่างมาก มหาเธร์ยังมีนโยบายสร้างความเป็นอิสระให้กับสถาบันตุลาการ รัฐสภา สำนักงานอัยการสูงสุด และสถาบันอิสระอื่น ๆ มหาเธร์ยังสร้างความมั่นใจให้กลุ่มชาวมลายูที่นับถือศาสนาอิสลาม หรือกลุ่มภูมิบุตรว่า สิทธิพิเศษที่พวกเขา เคยได้รับจะไม่ถูกลิดรอน เพราะคนกลุ่มนี้คือประชากรส่วนใหญ่ของชาติ คือ คิดเป็น 68.8% ของประชากร ทั้งประเทศ 28,700,000 คน 


อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ชัยชนะของมหาเธร์อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจมาเลเซีย เพราะมหาเธร์ประกาศจะยกเลิกการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เรียกเก็บจากสินค้าและบริการ ภายใน 100 วัน หลังเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็หมายความว่า ฐานรายได้ของภาครัฐจะลดลง และทำให้สถานะความน่าเชื่อถือทางการเงินของมาเลเซียติดลบ มหาเธร์เคยได้รับฉายาว่าเป็นสถาปนิกผู้สร้างมาเลเซียยุคใหม่ จากความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซียเข้าสู่ยุคอุตสหกรรม ผ่านนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจ

ตลอดช่วงการเป็นนายกรัฐมนตรี ยาวนาน 22 ปี เขาได้ทำให้มาเลซียกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เป็นที่น่าจับตามองของโลก แต่ถึงกระนั้นชาวมาเลย์จำนวนมากก็ยังคงยากจน ส่วนใหญ่ทำงานในด้านเกษตรกรรม แต่มหาเธร์ท้าทายให้ชาวมาเลเซียทำงานหนัก เป้าหมายแรกคือการหยุดพึ่งพาชาติตะวันตก กำหนดนโยบายใหม่ที่เรียกว่า มองตะวันออก โดยยกแม่แบบการพัฒนาของเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นหลัก เพื่อมุ่งพัฒนาประเทศให้ทันสมัย แทนที่จะมองอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคม นอกจากนี้ยังสร้างแบรนด์รถยนต์สัญชาติมาเลเซีย ชื่อ โปรตอน เขาเปลี่ยนมาเลเซียจากเดิมที่ส่งออกแต่ยางพาราเป็นหลัก มาเป็นผู้ส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ มหาเธร์ยังสร้างนครปุตตราจายาสนามบินใหม่ สาธารณูปโภคใหม่ ๆ รวมถึงไอคอนสัญลักษณ์โดดเด่นของมาเลเซีย จวบจนทุกวันนี้ คือ อาคารแฝดปิโตรนาส

วันนี้มหาเธร์กลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุมากที่สุดในโลก คือ 92 ปี เขาวางไพ่ใบสุดท้ายโดยระบุว่า จะเป็นนายกไม่เกิน 2 ปี และเตรียมถ่ายโอนอำนาจให้นายอันวาร์ ด้วยการขอพระราชทานอภัยโทษให้นายอันวาร์แล้วส่งไม้ต่อให้เขา แต่ก็ต้องจับตากันต่อไปว่าวัฏจักรการเมืองมาเลเซียจะหลุดพ้นจากผู้เล่นหน้าเดิม ๆ 3 คน คือนาจิบ ราซัค, มหาเธร์ โมฮัมหมัด และอันวาร์ อิบราฮิม ได้หรือไม่ ขณะที่สื่อทั่วโลกระบุว่า ชัยชนะของมหาเธร์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่ง Wall Street Journal รายงานว่าเหตุการณ์นี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อกลไกการเมืองที่ครองอำนาจในมาเลเซียแต่เพียงพรรคเดียวมานานถึง 61 ปี


ขณะที่ไทยเชื่อว่าการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในมาเลเซียจะไม่กระทบต่อการร่วมมือกันแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย เพราะมาเลเซียก็ต้องการให้เกิดสันติสุข ไทยสามารถคุยกันได้กับทุกคน อย่างไรก็ตาม วันนี้ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ  1 เดือน โดยนักวิเคราะห์มองว่ามาเลเซียไม่เคยเปลี่ยนขั้วอำนาจ ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง ก็ยังไม่มีประสบการณ์ การจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนยังจำเป็นต้องใช้เวลา.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]