ชาวเกาหลีใต้ไม่พอใจ รปภ.จีนทำร้ายนักข่าวเกาหลีใต้ตามทำข่าวผู้นำ

โซล 15 ธ.ค.- สื่อมวลชน โลกออนไลน์และฝ่ายค้านเกาหลีใต้พากันแสดงความไม่พอใจกรณีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจีนทำร้ายช่างภาพนักข่าวชาวเกาหลีใต้ที่ติดตามไปทำข่าวประธานาธิบดีมุน แจอินเยือนจีน 


โชซุนอิลโบ หนังสือพิมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดในเกาหลีใต้พาดหัวบทบรรณาธิการในวันนี้ว่า การปฏิบัติไม่ดีต่อประธานาธิบดีมุนและการทำร้ายนักข่าวเกาหลีใต้คือความฝันของจีน เป็นการพาดพิงถึงสิ่งที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเคยรับปากว่าจะทำให้จีนมั่งคั่งและทรงอิทธิพล โชซุนและหนังสือพิมพ์เกาหลีใต้หลายฉบับตั้งข้อสังเกตว่า จีนส่งรัฐมนตรีช่วยมาต้อนรับประธานาธิบดีมุนที่เดินทางถึงเมื่อวันพุธ เทียบกับการส่งรัฐมนตรีต่างประเทศไปต้อนรับประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ที่เยือนเมื่อปีก่อน นอกจากนี้จีนยังไม่ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมโต๊ะอาหารประธานาธิบดีมุนตลอด 3 มื้อแรกในจีน และยกเลิกกำหนดการรับประทานมื้อเที่ยงกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ขณะที่ช่างภาพนักข่าวเกาหลีใต้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจีนทุ่มลงพื้นแล้วเตะซ้ำจนกระดูกบนใบหน้าแตก เส้นเลือดนัยน์ตาแตก ระหว่างติดตามคณะประธานาธิบดีมุนไปงานแสดงสินค้า 

โชซุลระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เกิดจากความยะโสและความรุนแรงที่เป็นธรรมชาติของจีน และทัศนคติการยอมจำนนของเกาหลีใต้ ขณะที่โคเรียไทมส์ หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษระบุว่า พูดไม่ออกและโกรธมากที่จีนใช้ความรุนแรงกับผู้มาเยือน ให้การต้อนรับด้วยความหยาบคาย ด้านผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์พากันแสดงความไม่พอใจเช่นกัน บางคนโพสต์ว่าจีนเหยียบย่ำเกาหลีใต้และชาวเกาหลีใต้ทุกคน แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่านักข่าวเกาหลีใต้อาจล้ำเส้นความปลอดภัยเพราะอยากได้ภาพดี ๆ มากเกินไป ขณะที่พรรคเสรีภาพเกาหลี ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลักขอให้ประธานาธิบดียกเลิกการเยือน 4 วันแล้วเดินทางกลับประเทศทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย