บอนน์ 16 พ.ย.- เด็กชายชาวฟิจิวัย 12 ปี ขึ้นเวทีการประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เมืองบอนน์ของเยอรมนี วิงวอนนานาชาติร่วมแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนที่ทำลายชีวิตเขามาแล้ว
เด็กชายทิโมซี เนาลูซาลาเล่าว่า ทั้งบ้าน โรงเรียน แหล่งน้ำ แหล่งอาหารและเงินล้วนหายไปกับไซโคลนที่ถล่มเมื่อปีก่อน หมู่บ้านที่เคยสวยงามกลายเป็นที่ไร้รกร้างว่างเปล่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะคงอยู่ต่อไปหากไม่มีการดำเนินการใด ๆ บรรดาผู้ร่วมการประชุมหลายร้อยคนซึ่งมีผู้นำประเทศรวมอยู่ด้วยราว 25 คนพากันปรบมือให้กับเขา หลังจากนั้นเด็กชายเนาลูซาลาได้จับมือกับผู้นำทรงอิทธิพลของโลกหลายคนและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกบนเวทีประชุมโลกร้อนครั้งที่ 23 ที่เปิดฉากมาตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนและจะเสร็จสิ้นลงในวันที่ 17 พฤศจิกายน
นายอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการยูเอ็นกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามที่ชัดเจนในยุคนี้ การเดินหน้าลงทุนในเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลในทางการเงินและไม่เป็นผลดี ถึงเวลาที่จะต้องหยุดเสี่ยงกับอนาคตไม่ยั่งยืนที่จะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจและสังคม ด้านประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสเรียกร้องยุโรปช่วยสมทบเงินให้แก่คณะกรรมการวิทยาศาสตร์ในคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ไอพีซีซี) ที่กำลังขาดแคลนงบประมาณในการวิจัย เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐตัดงบประมาณที่ให้ปีละ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 66 ล้านบาท) หรือเกือบครึ่งของงบประมาณที่คณะกรรมการได้ในปีก่อน.-สำนักข่าวไทย