ฮานอย 6 ธ.ค.- สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ขาดดุลการค้าให้เวียดนามเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 จุดกระแสวิตกว่าเวียดนามจะเสี่ยงตกเป็นเป้าหมายมาตรการภาษีของรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์
ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 สหรัฐขาดดุลการค้าให้แก่เวียดนาม 102,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.47 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 20 จากช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 เวียดนามเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ของบริษัทข้ามชาติของสหรัฐหลายแห่ง เช่น แอปเปิล กูเกิล ไนกี้ และอินเทล เป็นคู่ค้าที่ได้ดุลการค้าสหรัฐมากเป็นอันดับ 4 รองจากจีน สหภาพยุโรป และเม็กซิโก นายทรัมป์เคยประกาศระหว่างหาเสียงว่า จะขึ้นภาษีสูงสุดร้อยละ 20 กับสินค้านำเข้าทุกรายการจากคู่ค้าที่ได้ดุลการค้าสหรัฐ
ในการประชุมทางธุรกิจที่หอการค้าอเมริกันจัดขึ้นที่กรุงฮานอยของเวียดนามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นักธุรกิจและตัวแทนสมาคมการค้าหลายคนแสดงความกังวลเรื่องเวียดนามจะตกเป็นเป้าหมายมาตรการภาษีของทรัมป์
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณจากการที่นายทรัมป์เลือกนายปีเตอร์ นาวาร์โร วัย 75 ปี เป็นที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดีด้านการค้าและการผลิต นายนาวาร์โรเป็นอดีตที่ปรึกษาการค้าของทำเนียบขาวในรัฐบาลสมัยแรกของทรัมป์ เขาเคยเสนอในโปรเจกต์ 2025 (Project 2025) ที่หลายคนในรัฐบาลชุดปัจจุบันมองว่า เป็นพิมพ์เขียวของรัฐบาลทรัมป์ว่า การเก็บภาษีเวียดนามจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐ
เวียดนามได้ประโยชน์อย่างมากในช่วงที่ทรัมป์ใช้มาตรการทางภาษีกับจีนในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก เนื่องจากผู้ผลิตจำนวนมากได้ย้ายฐานการผลิตจากจีนไปยังเวียดนาม ปัจจุบันสินค้าส่งออกของเวียดนามเกือบ 1 ใน 3 ส่งออกไปยังสหรัฐ.-814.-สำนักข่าวไทย