หนานหนิง 3 พ.ค. – ข้อมูลการนำเข้าทุเรียนสดผ่านด่านสำคัญของจีนชี้ว่า ทุเรียนไทยเสี่ยงไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งในตลาดจีนอีกต่อไป เนื่องจากมีการนำเข้าลดลง สวนทางกับการนำเข้าจากคู่แข่งหลายประเทศในอาเซียนเพิ่มขึ้น
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ด่านโหย่วอี้กวนหรือด่านมิตรภาพบนพรมแดนจีน-เวียดนามที่เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีน มีการนำเข้าทุเรียนสดในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปีนี้รวม 48,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,850 ล้านหยวน (ราว 9,250 ล้านบาท) แบ่งเป็นการนำเข้าจากเวียดนาม 35,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.1 เมื่อเทียบปีต่อปี คิดเป็นมูลค่า 1,280 ล้านหยวน (ราว 6,400 ล้านบาท) และการนำเข้าจากไทย 13,000 ตัน ลดลงร้อยละ 59.5 คิดเป็นมูลค่า 570 ล้านหยวน (ราว 2,850 ล้านบาท) ลดลงร้อยละ 63.5 เมื่อเทียบปีต่อปี
ด่านโหย่วอี้กวนเป็นด่านบกขนาดใหญ่ที่สุดในการนำเข้าทุเรียนและจุดสังเกตกระแสการบริโภคทุเรียนของตลาดจีน ปริมาณทุเรียนที่นำเข้าผ่านด่านนี้คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณทุเรียนนำเข้าทั้งหมดของจีน ข้อมูลการบริโภคทุเรียนของตลาดจีนชี้ว่า สถานะผู้นำของทุเรียนไทยในตลาดจีนกำลังสั่นคลอน โดยต้องเผชิญกับการแข่งขันอันดุเดือดจากแหล่งผลิตทุเรียนที่พัฒนาทีหลังอย่างเวียดนามและฟิลิปปินส์ อีกทั้งยังมีการแข่งขันจากมาเลเซียด้วย
คนวงในอุตสาหกรรมมองว่า ปริมาณทุเรียนสดนำเข้าจากไทยที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ทุเรียนไทยเข้าสู่ตลาดจีนล่าช้ากว่าปกติ ประกอบกับสภาพภูมิอากาศในท้องถิ่นไทยส่งผลกระทบต่อผลผลิตทุเรียน ทำให้ไทยต้องเร่งรักษาข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยนอกจากควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวดแล้ว ยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขนส่งและโลจิสติกส์ ทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกันเพื่อลดผลกระทบต่อสถานะผู้นำในตลาดจีน.-814.-สำนักข่าวไทย