ฮวาเหลียน 5 เม.ย.- แผ่นดินไหวในไต้หวันเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมาถือว่าเป็นแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปีของไต้หวัน หลายคนแปลกใจที่ตัวเลขคนเสียชีวิตและความเสียหายไม่มากอย่างที่คิด ทั้งที่แผ่นดินไหวมีขนาดใหญ่และศูนย์กลางไม่ลึก สะท้อนถึงสิ่งที่ไต้หวันได้เรียนรู้และดำเนินการเพื่อให้สามารถอยู่กับแผ่นดินไหวอย่างปลอดภัย
ตั้งอยู่บนจุดเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยกับไต้หวันที่มีคนอาศัยอยู่ประมาณ 23 ล้านคน เพราะสภาพภูมิประเทศตั้งอยู่บนแนว “วงแหวนแห่งไฟ” หรือ Ring of Fire เป็นพื้นที่ที่ทอดตัวเป็นแนวรูปเกือกม้าบนแผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรแปซิฟิก มีความยาวประมาณ 40,000 กิโลเมตร และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดทั่วโลก
ไต้หวันตั้งอยู่บนรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นคือ แผ่นทะเลฟิลิปปินส์กับแผ่นเปลือกโลกยูเรเชีย จึงเสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินไหวเป็นพิเศษ เพราะแรงอัดสะสมของแผ่นเปลือกโลกทั้ง 2 แผ่นพร้อมจะปลดปล่อยแรงอัดออกมาในรูปของแผ่นดินไหวได้ตลอดเวลา รอยต่อที่ว่านี้ส่วนใหญ่อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมมาท่องเที่ยว เพราะมีทั้งเทือกเขา น้ำพุร้อน และธรรมชาติที่สวยงาม และด้วยความที่ภูมิประเทศเป็นเทือกเขา เวลาเกิดแผ่นดินไหว จึงทำให้ดินถล่ม ก้อนหินขนาดใหญ่และเศษดินจำนวนมากร่วงหล่นลงมาสร้างความเสียหายให้กับอุโมงค์และทางหลวงที่อยู่ด้านล่าง
ตามข้อมูลของสำนักงานสํารวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐหรือ USGS นับตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมาไต้หวันและบริเวณน่านน้ำโดยรอบเกิดแผ่นดินไหวที่มีขนาดตั้งแต่ 4.0 ขึ้นไปราว 2,000 ครั้ง ส่วนแผ่นดินไหวที่มีขนาดตั้งแต่ 5.5 ขึ้นไปเกิดขึ้นมากกว่า 100 ครั้ง
ไหวแรงแต่คนไม่แตกตื่น
หน่วยงานตรวจสอบแผ่นดินไหวของไต้หวันแจ้งตัวเลขแผ่นดินไหวเมื่อวันพุธว่ามีขนาด 7.2 ขณะที่ USGS แจ้งว่ามีขนาด 7.4 สร้างความเสียหายให้กับอาคารหลายหลังในเทศมณฑลฮวาเหลียน แต่สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยในกรุงไทเปที่เป็นเมืองหลวง แม้ว่ารับรู้แรงสั่นสะเทือนได้อย่างรุนแรง นอกจากนั้นแรงสั่นสะเทือนยังส่งไปถึงจีนและญี่ปุ่นด้วย
ยอดผู้เสียชีวิตหลังจากแผ่นดินไหวผ่านไป 2 วันคือวันนี้ 5 เมษายนอยู่ที่ 12 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 1,000 คน มีอาคารบ้านเรือนและถนนเสียหาย บริการขนส่งสาธารณะหยุดชะงัก แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้า แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของชาวไต้หวันเพียงเล็กน้อย เพราะหลังจากนั้นไม่กี่นาทีวิถีชีวิตของชาวไต้หวันก็กลับสู่สภาวะปกติ ผู้ปกครองพาลูกหลานไปส่งที่โรงเรียน ผู้คนยังคงสัญจรไปมาตามท้องถนนและเดินทางไปทำงานได้ตามปกติ
เตรียมพร้อมในทุกด้าน
ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวยกย่องให้การเตรียมพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวของไต้หวันมีความก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยใช้ทั้งเทคโนโลยี กฎหมาย และการฝึกซ้อมมาใช้ร่วมกัน
หลายบริษัทในไต้หวันใช้วัสดุก่อสร้างที่ทนต่อสภาพแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ควบคู่ไปกับการที่ทางการใช้บทบัญญญัติด้านอาคารมาควบคุมการก่อสร้างอาคารอย่างเคร่งครัด ปรับปรุงกฏระเบียบและข้อบังคับสําหรับอาคารใหม่และอาคารที่มีอยู่เป็นประจำแม้ว่าจะทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังให้เงินอุดหนุนแก่ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการตรวจสอบความต้านทานแผ่นดินไหวของอาคารที่พักอาศัยของตนด้วย
ในปี 2559 หลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองไถหนานทางชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของไต้หวันจนทำให้อาคารที่พักอาศัยสูง 17 ชั้นพังทลายลงมาและมีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน ศาลได้ตัดสินจําคุกคน 5 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารในความผิดฐานประมาทเลินเล่อ
ขณะเดียวกันก็มีการรณรงค์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวได้อย่างปลอดภัย มีการฝึกซ้อมรับมือแผ่นดินไหวทั้งในโรงเรียนและสำนักงานอย่างสม่ำเสมอ ด้านสื่อสาธารณะและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนก็ให้ความร่วมมือด้วยการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเกิดแผ่นดินไหวและการรับมืออย่างปลอดภัย กระทรวงกิจการดิจิทัลที่เพิ่งตั้งขึ้นในปี 2565ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดูแลเรื่องเครือข่ายการสื่อสารให้ใช้งานได้ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหว โดยพบว่าแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด เครือข่ายการสื่อสารโดยเฉพาะอินเทอร์เน็ตแทบไม่ได้รับผลกระทบเลย
นอกจากนี้ไต้หวันยังจัดเตรียมหน่วยกู้ภัยไว้ตามเมืองและเทศมณฑลต่าง ๆ ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อตอบสนองต่อภัยพิบัติได้ทันที และมีการซ้อมป้องกันภัยพลเรือนประจำปีเพื่อรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาตรการเหล่านี้ช่วยให้ไต้หวันสามารถรับมือกับแผ่นดินไหวได้อย่างมีนัยสําคัญรวมถึงช่วยบรรเทาความเสียหายรุนแรงและการสูญเสียชีวิต
จุดเปลี่ยนที่ทำให้เตรียมพร้อม
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ไต้หวันหันมาใส่ใจเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือกับแผ่นดินไหวอย่างจริงจังเกิดขึ้นเมื่อกว่า 20 ปีก่อน เป็นธรณีพิโรธครั้งเลวร้ายที่สุดในช่วงหลายสิบปีของไต้หวันที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2542 หรือที่เรียกกันว่า แผ่นดินไหว 921 (มาจากเดือน 9 วันที่ 21) แผ่นดินไหวขนาด 7.7 คร่าชีวิตผู้คนไปมาถึง 2,400 คน และบาดเจ็บอีกราว 100,000 คน รวมถึงอาคารหลายพันหลังที่พังเสียหาย เหตุการณ์ภัยพิบัติในครั้งนั้นทำให้รัฐบาลไต้หวันในเวลานั้นแก้ไขบทบัญญัติด้านอาคารและใช้กฎหมายจัดการภัยพิบัติอย่างเคร่งครัด จนกระทั่งได้รับการยกย่องว่ามีความเตรียมพร้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
TNA News-Now-Next: Final Thoughts
แผ่นดินไหวยังคงเป็นภัยธรรมชาติที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอีกหลายล้านปีข้างหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นในไต้หวันเป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คำว่า “ถอดบทเรียน” ที่แท้จริงคืออะไร
ไต้หวันได้เรียนรู้และดำเนินการปรับปรุง ปกป้อง และป้องกันอย่างจริงจังเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับแผ่นดินไหว โดยมีการเตรียมความพร้อมเป็นอาวุธหลักในการรับมือกับภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดคะเนได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด.-818(814).-สำนักข่าวไทย