ปักกิ่ง 11 พ.ค. – จีนได้ใช้เงินหยวนซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากรัสเซียเพิ่มขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา และได้ใช้เงินหยวนเกือบทั้งหมดในการซื้อน้ำมัน ถ่านหิน และโลหะบางประเภท แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลของสมาคมเพื่อการโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือสวิฟต์ (SWIFT) ระบุว่า เงินหยวนได้กลายเป็นสกุลเงินที่ใช้มากที่สุดสำหรับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนในจีน แซงหน้าดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2566 แม้ว่ามีสัดส่วนการเป็นสกุลเงินสำหรับการชำระเงินระดับโลกเพียงร้อยละ 2.5 เทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร ที่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 39.4 และ 35.8 ตามลำดับ ขณะที่ข้อมูลของธนาคารกลางจีนระบุว่า ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดนของจีน หรือซิปส์ (CIPS) ซึ่งเป็นทางเลือกแทนสวิฟต์ มีการทำธุรกรรมในปี 2565 ทั้งหมด 96.7 ล้านล้านหยวน (ราว 470 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.5 ต่อปี ด้านธนาคารกลางรัสเซียเผยในเดือนมีนาคมว่า สัดส่วนเงินหยวนที่ใช้ชำระค่าสินค้านำเข้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากร้อยละ 4 เป็นร้อยละ 23 ในปี 2565
จีนเริ่มผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินสากลมาตั้งแต่ทศวรรษก่อน แต่ยังมีการใช้อย่างจำกัด การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเมื่อปีก่อน เมื่อธนาคารรัสเซียถูกตัดออกจากสวิฟต์ในเดือนเมษายน 2565 หลังจากทำสงครามในยูเครน และชาติตะวันตกคว่ำบาตรไม่ซื้อสินค้ารัสเซีย เปิดช่องให้จีนเข้าไปซื้อสินค้าโภคภัณฑ์ราคาถูกจากรัสเซีย ทั้งน้ำมันดิบ ถ่านหิน อะลูมิเนียม โดยมูลค่านำเข้าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52 ข้อมูลของศุลากรจีนระบุว่า ปีที่แล้วจีนนำเข้าน้ำมันดิบและเชื้อเพลิงจากรัสเซียมูลค่ารวมกัน 60,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านบาท) ขณะที่ผู้บริหารที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ 5 รายเผยว่า จีนใช้เงินหยวนเกือบทั้งหมดในการชำระค่าน้ำมัน.-สำนักข่าวไทย