เหยื่อกราดยิงแอลเอตายเพิ่มเป็น 11 ราย

สหรัฐ 24 ม.ค. – มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงนอกเมืองลอสแอนเจลิสของสหรัฐ เพิ่มเป็น 11 ราย ขณะที่ตำรวจยังคงเร่งสืบสวนหาแรงจูงใจที่ทำให้มือปืนเชื้อสายเอเชียวัย 72 ปี ลงมือก่อเหตุก่อนฆ่าตัวตายหนีความผิด


เหตุกราดยิงที่งานฉลองตรุษจีนของสตูดิโอเต้นรำ ในเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก ไม่ไกลจากนครลอสแอนเจลีส เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หลังมือปืนบุกเข้าไปสาดกระสุนเข้าใส่ผู้คนอย่างไม่เลือกหน้า ทำให้มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 10 คน เกือบทั้งหมดเป็นผู้สูงอายุ และบาดเจ็บอีก 10 คน ล่าสุดมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตที่โรงพยาบาลเพิ่มเป็นรายที่ 11 และมีการเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต 2 รายแรก คือ มาย หน่าน วัย 65 ปี และ ไลแลน หลี่ วัย 63 ปี

ตำรวจบอกว่า ผู้ต้องสงสัยคนเดียวในเหตุการณ์นี้ คือ นายหู กั่น จัน ชายเชื้อสายเอเชียวัย 72 ปี ซึ่งหลังก่อเหตุจุดแรกได้หนีไปหลายกิโลเมตร ตั้งใจไปก่อเหตุที่สตูดิโอเต้นรำอีกแห่ง แต่ถูกพลเมืองดีขัดขวางและแย่งปืนได้ ทำให้ต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน กระทั่งจนมุมถูกตำรวจปิดล้อมขวางรถที่ขับหนี จึงลั่นกระสุนปลิดชีวิตตนเองภายในรถตู้ก่อนที่ตำรวจจะเข้าจับกุม


อย่างไรก็ดี ตำรวจยังไม่สามารถชี้ชัดถึงแรงจูงใจของคนร้าย ได้แต่ยืนยันว่ากำลังสืบสวนอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมงจนกว่าจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดทั้งจากรถตู้คันที่เขาใช้หลบหนีและจากรถบ้านของเขา ขณะที่พยานหลายคนรวมถึงคนใกล้ชิดมือปืน และอดีตนายกเทศมนตรีเมืองมอนเทอเรย์ พาร์ก บอกว่านายหูชื่นชอบการเต้นรำชนิดเข้าไส้ และคิดเอาเองว่าตนองเต้นรำเก่ง ถึงขนาดเปิดคอร์สสอนเต้นรำฟรีให้กับผู้คนเชื้อสายเอเชียคนอื่นๆ ในเมือง ขณะที่อดีตภรรยาบอกว่า นายหูหย่าขาดจากเธอ เพียงแค่เพราะไม่ชอบที่เธอเต้นรำไม่เก่ง

สำหรับมอนเทอเรย์ พาร์ก อยู่ห่างจากใจกลางนครลอสแอนเจลิสเพียง 12 กิโลเมตร มีประชากรราว 6 หมื่นคนส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายเอเชียที่กำลังเตรียมเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในวันอาทิตย์ แต่ทุกอย่างต้องยกเลิกไปทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุ จุดกระแสสังคมให้ตั้งข้อสังเกตว่า เหตุรุนแรงนี้เป็นอีกครั้งที่ชาวเอเชียในสหรัฐ ตกเป็นเป้าการประทุษร้าย หลังจาก 2-3 ปีหลังการระบาดของโควิด-19 มีสถิติการทำร้ายคนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่โศกนาฏกรรมในครั้งนี้ มือปืนที่ลงมือก่อเหตุเป็นคนเชื้อสายเอเชียด้วยกันเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่