ตำรวจสหรัฐเผชิญหน้าผู้ต้องสงสัยกราดยิงลอสแอนเจลิส

สหรัฐ 23 ม.ค. – ตำรวจสหรัฐไล่ล่าผู้ต้องสงสัยกราดยิงเสียชีวิต 10 ราย นอกเมืองลอสแอนเจลิส ก่อนจบชีวิตคนร้ายได้ในที่สุด ยังไม่ทราบแรงจูงใจการก่อเหตุ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย


รถหุ้มเกราะของตำรวจหน่วยสวาทปิดล้อมรถตู้สีขาวที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุกราดยิงภายในไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก นอกเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จนมีผู้เสียชีวิต 10 คนและบาดเจ็บอีก 10 คน สื่อท้องถิ่นรายงานว่าเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างตำรวจกับคนขับรถตู้สีขาวและมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ในเวลาต่อมา ตำรวจและหน่วยสวาทเข้าตรวจสอบในรถและยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากตำรวจว่าผู้เสียชีวิตคือคนร้าย

ก่อนหน้าเหตุเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับผู้ต้องสงสัยในรถตู้สีขาว ตำรวจอยู่ระหว่างไล่ล่ามือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงภายในไนต์คลับแห่งหนึ่งในเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก นอกเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จนมีผู้เสียชีวิต 10 คนและบาดเจ็บอีก 10 คน จากนั้นเชื่อว่ามือปืนคนดังกล่าวเดินทางไปยังเมืองอัลฮัมบราที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล และเตรียมก่อเหตุกราดยิงภายในไนต์คลับอีกแห่ง แต่ถูกพลเมืองดีขัดขวางและแย่งอาวุธปืนเอาไว้ได้ ทำให้ผู้ต้องสงสัยหลบหนี ก่อนถูกติดตามตัวได้ที่เมืองทอร์แรนซ์ และเกิดการเผชิญหน้ากับตำรวจ


ในช่วงเวลาดังกล่าว ตำรวจเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก ได้เผยแพร่ภาพนิ่งผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืน ว่าเป็นชายเชื้อสายเอเชีย สวมแจ็คเก็ตสีดำ หมวกไหมพรม และสวมแว่นตา แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ รวมถึงชื่อของผู้ต้องสงสัย และยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุกราดยิงของคนร้าย ซึ่งถือว่ารุนแรงและทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์รัฐแคลิฟอร์เนีย

เหตุกราดยิงดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการจัดงานเฉลิมฉลองวันตรุษจีนในเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก อย่างยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมงานหลายหมื่นคน แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นไม่น่ามีส่วนเชื่อมโยงกับการจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนในพื้นที่

สำหรับเมืองมอนเทอร์เรย์ พาร์ก อยู่ห่างจากใจกลางนครลอสแอนเจลิสราว 12 กิโลเมตร มีประชากรประมาณ 60,000 คน เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวเอเชียขนาดใหญ่ และมีธุรกิจหลายแห่งที่มีคนเชื้อสายเอเชียเป็นเจ้าของ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง