ปารีส 4 พ.ค.- นายเอ็มมานูเอล มาครง และนางมารีน เลอ เปน คู่ชิงเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสโต้วาทีกันอย่างเผ็ดร้อนด้วยการสบประมาทกันเป็นการส่วนตัว หวังได้เสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งร้อยละ 18 ที่ยังไม่ตัดสินใจ
การโต้วาทีที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ตลอด 160 นาทีเต็มไปด้วยการใช้คำพูดโจมตีสาดใส่กัน นายมาครง วัย 39 ปี สายกลางกล่าวหานางเลอ เปน วัย 48 ปี สายขวาจัดว่าใช้การโกหกและความกลัวเป็นยุทธวิธีหาเสียง แต่ไม่ได้เสนออะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่นางเลอ เปนเรียกเขาว่า เป็นขวัญใจของระบบ เป็นผู้สมัครแห่งโลกาภิวัฒน์ที่พร้อมขายทรัพย์สินประเทศและสละอำนาจการดูแลประเทศ และเมื่อนายมาครงกล่าวว่า ฝรั่งเศสไม่สามารถแก้ปัญหาว่างงานตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เขาจะเสนอทางออกที่ให้โอกาสบริษัทขนาดกลางและย่อมเพื่อเพิ่มการจ้างงานและความยืดหยุ่น นางเลอ เปนถล่มกลับทันทีว่าเหตุใดเขาจึงไม่ทำนโยบายนี้ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หากเธอชนะเลือกตั้งเธอจะปกป้องทรัพย์สินของรัฐและสร้างงานด้วยการใช้มาตรการปกป้องทางการค้า
ส่วนประเด็นก่อการร้าย นางเลอ เปน กล่าวหานายมาครงว่า ชะล่าใจกับกระแสมุสลิมสายเคร่ง เธอจะกำจัดกระแสนี้ด้วยการปิดมัสยิดสุดโต่งทั้งหมด ขับนักสอนศาสนาที่เผยแพร่ความเกลียดชัง และจัดการกับเงินทุนที่มาจากประเทศมุสลิมอย่างกาตาร์และซาอุดีอาระเบีย ขณะที่นายมาครงโต้กลับว่านโยบายของนางเลอ เปน จะเข้าทางของกลุ่มก่อการร้ายและความปรารถนาที่จะก่อสงครามกลางเมือง เขาจะเสริมสร้างมาตรการด้านความมั่นคงที่มีอยู่แล้วโดยต้องร่วมมือกับประเทศอื่น การปิดพรมแดนและแยกตัวไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหานี้
นางเลอ เปนกล่าวว่า เธอไม่เพียงจะทำให้ฝรั่งเศสกลับมาควบคุมพรมแดนและข้อตกลงการค้าของตัวเองอย่างเต็มตัว แต่จะกลับไปใช้สกุลเงินของประเทศด้วย ธนาคารและบริษัทขนาดใหญ่สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เงินฟรังก์หรือเงินยูโร แต่ชาวฝรั่งเศสจะกลับไปใช้เงินของประเทศ ทำให้นายมาครงเยาะเย้ยว่า เป็นข้อเสนอไร้สาระ บริษัทจะรับเงินยูโรแต่จ่ายเงินเดือนเป็นเงินฟรังก์ได้อย่างไร
เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ (บีบีซี) นำผลสำรวจหลายสำนักมาหาค่าเฉลี่ยจนถึงวันที่ 4 พฤษภาคมได้ว่า นายมาครงมีคะแนนนำนางเลอ เปน ร้อยละ 59 ต่อ 41 ในการเลือกตั้งรอบสองวันที่ 7 พฤษภาคมนี้.-สำนักข่าวไทย