จีน 11 เม.ย. – ขณะที่จีนมีปัญหาหมอกควันอย่างหนักจากการใช้พลังงานถ่านหิน แต่จีนก็เป็นผู้นำด้านพลังงานแสงอาทิตย์เช่นกัน
เป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ของสหรัฐ สั่งติดตั้งแผงพลังงานแสง อาทิตย์ 32 แผง ไว้บนหลังคาทำเนียบขาวในปี 2522 เพื่อหวังกระตุ้นอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของประเทศ แต่ขณะนี้สหรัฐยังคงใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่นถ่านหิน ที่เป็นตัวก่อมลพิษเป็นหลักถึงร้อยละ 67 ของพลังงานที่ใช้ทั้งประเทศ สวนทางกับจีนที่ตอนนี้กลายเป็นผู้ลงทุนในพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ขณะที่สหรัฐและยุโรปต่างลงทุนในพลังงานหมุนเวียนไม่ถึงครึ่งของจีน
เอกชนชั้นนำด้านพลังงานหมุนเวียนของจีน ได้แก่ บริษัทไห่หมินโซลาร์ เอนเนอร์จี้ กรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำร้อนพลังแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดของจีนที่ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์พลังแสงอาทิตย์มากกว่า 1,100 ชนิดออกไปยัง 80 ประเทศทั่วโลก และเป็นผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ในเมืองเต๋อโจว มณฑลซานตง สหรัฐยังได้ส่งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ที่เคยติดตั้งบนหลังคาทำเนียบขาวมาเก็บไว้ที่นี่ด้วย
เจิ้ง เฉียง ชาวบ้านในหมู่บ้านต้าหยางจวงบอกว่า บ้านเรือนส่วนใหญ่เริ่มติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทำน้ำอุ่นมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เมื่อปีที่แล้วเฉียงตัดสินใจสร้างห้องพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขาในตัว พร้อมระบบทำความร้อน ด้วยเงินอุดหนุนจากรัฐบาล เขาจะได้ค่าตอบแทนจากการขายไฟฟ้าให้รัฐบาลจีนตลอด 25 ปีข้างหน้า และยังช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วย เพราะสามารถปรับอุณหภูมิในห้องนอนที่ปกติอยู่ที่ราว 8 องศาฯ ในช่วงฤดูหนาวให้สูงขึ้นเป็น 15 องศาฯ ทำให้นอนหลับสบายขึ้น และยังอาบน้ำอุ่นจากฝักบัวได้ทุกเมื่อที่ต้องการ แม้จีนจะกำหนดเป้าการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนเป็น 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสร้างงานกว่า 13 ล้านตำแหน่ง แต่สิ่งท้าทายสำคัญคือ การลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ตอนนี้จีนยังคงเป็นผู้ผลิตและบริโภคถ่านหินรายใหญ่ที่สุดในโลก. – สำนักข่าวไทย