กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่น่าไว้วางใจ แพทย์เตือน 10 สัปดาห์จากนี้ ไทยจะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ต้องเข้มใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โควิด-19 ว่าประเทศไทยก็เหมือนกับหลายประเทศทั่วโลก ที่ลดการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ แต่หันมารายงานจำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้เสียชีวิต ประเทศแถบเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้เสียชีวิตต่อเนื่องเช่นเดียวกับไทย
นพ.จักรรัฐ ยกตัวอย่างแอฟริกาใต้ อังกฤษ อเมริกา ที่มีสายพันธุ์ BA.4/BA.5 เพิ่มขึ้น แอฟริกาใต้และอเมริกา เหมือนมีการระบาดเป็นระลอกเล็ก ๆ เพิ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่เมื่อมาดูความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนพบว่า ประเทศอังกฤษมีการฉีดวัคซีนครอบคลุมไปถึง 73% อเมริกา 67% พบว่าอัตราตายไม่สูงขึ้นมากต่างกับแอฟริกาใต้ ที่ความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนเพียง 32% ทำให้พบอัตราเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง และเมื่อเปรียบเทียบฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และประเทศไทย ที่มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ BA.4/BA.5 เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกัน 22% 21% และ 20% แต่ของประเทศไทย ฝรั่งเศส และออสเตรเลียยังไม่พบการระบาดพีครอบใหม่เหมือนเช่นประเทศแอฟริกาใต้ อเมริกาและอังกฤษ หลายประเทศมีการย่อหย่อนมาตรการใส่หน้ากากไปแล้ว แต่ยังโชคดีที่มีเปอร์เซ็นต์ความครอบคลุมของการฉีดวัคซีนสูงมาช่วยทำให้โอกาสป่วยหนักลดลง
สำหรับไทยพบว่าผู้ป่วยปอดอักเสบเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจทรงตัว ผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาลยังทรงตัวไม่เพิ่มมาก แสดงให้เห็นว่าการแพร่กระจายของเชื้ออยู่ในวงกว้างทั้งครอบครัวและคนใกล้ชิด รวมทั้งมีการแพร่เชื้อในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพบมีผู้ป่วยเข้ารักษาในระบบ สปสช.เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่ม 608 แทบทั้งหมด และไม่ได้รับวัคซีน อยู่กลุ่มผู้ป่วยโรคไต หลอดเลือดสมอง
ผอ.กองระบาดวิทยา ยังกล่าวว่า สัดส่วนอัตราการครองเตียงผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นในจังหวัดใหญ่ ๆ เช่น กทม. เช่นเดียวกับ สมุทรปราการ ชลบุรี แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ จึงขอเตือนว่าจากข้อมูลดังกล่าวชี้ว่า อีก 10 สัปดาห์จากนี้จะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่อาจไม่ถึงช่วงโอไมครอนแพร่ระบาดใหม่ ๆ ย้ำให้ใช้มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคลเข้มข้น จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่อใช้ขนส่งสาธารณะ สถานที่คนจำนวนมากและสถานที่ปิดจำเป็นต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา และทุกคนต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น. -สำนักข่าวไทย