กทม. 11 พ.ค.- นายกฯ พอใจ สาธารณสุขไทยติดอันดับ 1 ฟื้นตัว-รับมือโควิด ขึ้นแท่นประเทศต้นแบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจความร่วมมือการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านสาธารณสุข ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดีของความสำเร็จในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า พร้อมชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องที่ได้ทุ่มเททำงานด้วยความเสียสละมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นอย่างทั่วถึง ประชาชนพึงพอใจต่อคุณภาพ มาตรฐานบริการสาธารณสุข และการดำเนินงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ส่งผลต่อการจัดอันดับของประเทศไทยในเวทีโลก ด้านสาธารณสุข ประจำปี 2564 ประเทศไทยติดอันดับ 1 ประเทศที่ฟื้นตัวและรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีที่สุด จากการจัดอันดับดัชนี Global COVID-19 Index (GCI) ซึ่งในมิติด้านการฟื้นตัว (Global Recovery Index) และด้านความรุนแรงของการระบาด (Global Severity Index) ไทยได้รับการประเมินให้ได้คะแนนดีที่สุดจาก 184 ประเทศทั่วโลก
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ผลการดำเนินงานสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2564 ผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำ จำนวน 47.56 ล้านคน จากผู้มีสิทธิทั้งหมด 47.74 ล้านคน ครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร้อยละ 99.61 สำหรับหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนให้บริการผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีจำนวน 14,549 แห่ง ส่วนการให้บริการตามสิทธิประโยชน์ ประกอบด้วย 1. บริการพื้นฐานในงบเหมาจ่ายรายหัว เช่น บริการสุขภาพทั่วไป มีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในใช้บริการต่ำกว่าเป้าหมาย และ 2. บริการเฉพาะกลุ่มนอกงบเหมาจ่ายรายหัว เช่น จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีผู้ป่วยเอดส์ มีการเข้ารับยาต้านไวรัสสูงกว่าเป้าหมาย จำนวนผู้ป่วยไตวายเรื้อรังเข้ารับบริการล้างไต ฟอกไต ปลูกถ่ายไต สูงกว่าเป้าหมาย และผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังได้รับการดูแลในชุมชนตามแผนการดูแลรายบุคคลต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ และการปรับเปลี่ยนรูปแบบสาธารณสุขระดับปฐมภูมิวิถีใหม่ ที่เน้นการจัดบริการนอกหน่วยบริการเพื่อลดความแออัด
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวข้างต้นยืนยันถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาล ที่ดูแลสุขภาพของประชาชนอย่างดีที่สุด รวมทั้งยกระดับมาตรฐานและความมั่นคงด้านสาธารณสุขให้กับประเทศไทย จนได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก รวมถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และดูแลรักษาสุขภาพแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนเป็นเป้าหมายอันดับแรกของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการป้องกันและส่งเสริมการรักษาสุขอนามัยในทุกช่วงวัย พร้อมๆ กับเตรียมสวัสดิการเพื่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างสะดวกและทั่วถึงครอบคลุมประชาชนคนไทยทุกคน
“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำ ระบบสาธารณสุขของไทยจะไม่หยุดอยู่กับที่ จะต้องพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติที่ได้วางไว้โดยมีหลักยึดที่สำคัญ คือ เราจะเดินหน้าไปพร้อมกัน และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การรักษาพยาบาลและบริการสาธารณสุขต้องเป็นไปอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในระบบสุขภาพของประเทศ” น.ส.รัชดา กล่าว.-สำนักข่าวไทย.